วันนี้เกษตรกรไทยประมาณ 80-90% แทบไม่มีรู้เลยว่า ดินเป็นกรดเป็นด่าง สำคัญต่อการเจริญเติบโตของพืชมากแค่ไหน ถ้าดินในแปลงปลูกเป็นกรดด่างมากเกินไป เกษตรกรซื้อปุ๋ยมาใส่แค่ไหนก็เปลืองเงินเท่านั้น เพราะต้นไม้เอาไปใช้ประโยชน์ได้น้อย ที่ผ่านมาแม้ภาครัฐจะมีหน่วยงานบริการตรวจวัดค่าดินให้เกษตรกร แต่ผลที่ออกมาเกษตรกรไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ เพราะไม่มีการอธิบาย แปลความหมายให้เกษตรกรได้เข้าใจ”
พูดบ่นกันมานาน ปุ๋ยแพง ใส่ไปแล้วไม่ค่อยได้ผล ปีนี้ใส่ ปีหน้าต้องเพิ่ม ไม่เพียงต้นทุนสูง ยังทำให้ดินแน่น ดินทึบ ต้นไม้ไม่สามารถทำงาน ดึงปุ๋ยมาใช้ประโยชน์ได้เต็มที่… แต่จะมีใครรู้บ้าง ตัวการสำคัญที่ทำให้ต้นไม้ดูดปุ๋ยได้ไม่เต็มที่ สาเหตุจริงๆมาจากอะไร

กวิน ปุญโญกุล นักวิจัยศูนย์เทคโนโลยีชีวภาพเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กำแพงแสน อธิบายพร้อมยกภาพ “ความสามารถในการดูดธาตุอาหารของพืชในดินที่มีความเป็นกรดด่างที่แตกต่างกัน” ผลงานศึกษาของ ศ.ดร.สุนทรี ยิ่งชัชวาลย์ ศาสตราจารย์ประจำศูนย์เทคโนโลยีชีวภาพเกษตร มาแสดงให้เห็นว่าสภาพดินเป็นกรดด่างในแต่ละค่าพีเอช ต้นไม้สามารถดึงดูดปุ๋ยแต่ละชนิดได้มากน้อยแค่ไหน ระดับที่ดีที่สุด ที่พืชสามารถเอาธาตุอาหารไปใช้ได้มากชนิดที่สุด…ค่าพีเอชควรอยู่ที่ 6.5
“การทำนาที่มีการบ่นกันว่าใส่ปุ๋ยเคมีแล้วมักไม่ได้ผล สาเหตุสำคัญมาจาก 2 ประการ หนึ่ง เกษตรกรใส่ปุ๋ยไม่ครบ ข้าวต้องการปุ๋ย 6 ชนิด แต่เกษตรกรจะใส่แค่ 3 ตัว N-P-K ส่วนอีก 3 ตัว แคลเซียม แมกนีเซียม ซัลเฟอร์ ไม่มีใครใส่กัน และอีกปัญหามาจากดินเป็นกรด เพราะน้ำฝนที่ตกมาจากท้องฟ้านั้นมีค่าความเป็นกรดอ่อนๆอยู่แล้ว

เมื่อมาขังอยู่นานวันการสะสมกรดก็เกิดขึ้น แถมปุ๋ยเคมีที่ใส่ไปนั้นมีความเป็นกรดอ่อนๆอีกด้วย ใส่บ่อยใส่มากเลยเพิ่มความเป็นกรดให้ดินมากขึ้น วิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุด ชาวนาต้องรู้จักเอาปูนโดโลไมท์มาปรับปรุงดินด้วย ไม่เพียงจะช่วยเจือจางความเป็นกรดได้แล้ว ในปูนโดโลไมท์ยังมีปุ๋ยอีก 3 ตัว ที่เกษตรกรไม่เคยใส่อีกด้วย มันเลยได้ประโยชน์ 2 เด้งไปพร้อมกันทีเดียว แต่ใช้ได้เฉพาะในพื้นที่ดินเป็นกรดเท่านั้น พื้นที่นาดินเป็นด่างใช้ไม่ได้”
กวิน บอกอีกว่า ภาวะดินเป็นกรดนั้น สามารถนำปูนโดโลไมท์ ปูนมาร์ล ปูนขาว มาใช้แก้ปัญหาได้…แต่ถ้าสภาพดินเป็นด่าง การแก้ปัญหาทำได้ยากมาก หนทางที่ดีที่สุดต้องเปลี่ยนไปปลูกพืชชนิดอื่นที่ทนด่างได้ หรือไม่ก็เปลี่ยนอาชีพไปทำอย่างอื่นแทนปลูกพืช
แต่ที่สำคัญจะลงมือปลูกพืชไม่ว่าจะเป็นพืชชนิดไหน…เกษตรกรต้องให้ตรวจวิเคราะห์คุณภาพดินตัวเองให้ดีเสียก่อนว่าเป็นยังไง เพราะมีหน่วยราชการกระทรวงเกษตรฯให้บริการอยู่แล้ว ได้ผลมาแล้วต้องสอบถามให้ละเอียดด้วยว่าต้องปรับปรุงแก้ไขอย่างไรดินถึงจะดีด้วย ไม่ใช่ได้แต่กระดาษมา 1 แผ่น…ใช้จุดไฟไล่ยุงยังไม่ได้เลย.