ครูบัญชี จากชีวิตที่เคยพล าด ห นี้สินท่วมตัว หันยึด “เศรษฐกิจพอเพียง” จนปลดห นี้ มีเงิ นล้าน

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ได้ส่งเสริมและผลักดันให้เกษตรกรและประชาชน มีการทำบัญชีรับ-จ่ายในครัวเรือนมาอย่างต่อเนื่อง โดยสร้างครูบัญชีอาสาหรือ“อาสาสมัครเกษตรด้านบัญชี” ซึ่งเป็นบุคลากรสำคัญที่ทำหน้าที่เป็นตัวแทนของกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ในการเป็นวิทยากร วิทยากรผู้ช่วย เพื่อสอนแนะ กระตุ้นการเรียนรู้ และติดตามผลการทำบัญชีของเกษตรกร

รวมถึงการสร้างเครือข่ายถ่ายทอดความรู้แก่เกษตรกรในชุมชนของตนและพื้นที่ต่างๆ ในจังหวัดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากการทำงานเป็นเครือข่ายร่วมกันระหว่างกรมตรวจบัญชีสหกรณ์และครูบัญชี ได้ช่วยเสริมสร้างให้เกษตรกรได้ใช้บัญชีไปใช้วิเคราะห์ต้นทุนการประกอบอาชีพ เพื่อวางแผนธุรกิจในครัวเรือนของตนได้

คุณขนิษฐา มะโนสมบัติ หรือครูรุ่ง อายุ 43 ปี ครูบัญชีดีเด่น รองชนะเลิศอันดับ 2 ประจำปี 2558 จากจังหวัดเชียงราย นับเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ดีของครูบัญชีที่น้อมนำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาใช้แก้ไขปัญหาในการดำเนินชีวิตและการประกอบอาชีพ โดยนำระบบบัญชีมาใช้เป็นเครื่องมือให้เข้าถึงแก่นแท้ของความพอเพียง และวิเคราะห์ข้อมูลทางบัญชีบริหารจัดการทำเกษตรทฤษฎีใหม่ บนพื้นที่พักอาศัยจำนวน 53 ตารางวา ผลิตอาหารปลอดภัยที่มั่นคงในครัวเรือนและขยายผลเป็นแนวทางในการสร้างแหล่งอาหารปลอดภัยของชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น จนเกิดผลสำเร็จเป็นรูปธรรม

ครูรุ่ง เล่าถึงความเป็นมาก่อนจะมาเป็นครูบัญชีอาสาว่า เริ่มจากการเป็นแม่บ้านที่ต้องเลี้ยงลูกตามลำพังถึง 3 คน โดยอาศัยร ายได้จากสามีที่ทำงานส่งมาให้จากต่างประเทศ มาใช้จ่ายจุนเจือครอบครัว แต่เพราะไม่เคยวางแผนบริหารจัดการทางการเงิน ประกอบกับการใช้จ่ายเงินอย่างฟุ่มเฟือย ติ ดการพนั น ทำให้มีเงินไม่เพียงพอ เลี้ยงดูครอบครัว ต้องไปยืมเงินจากชาวบ้าน จนไม่มีใครยอมรับ ข าดที่พึ่ง และเริ่มเจ็บป่ วยสุขภาพร่างกายไม่แข็งแรง ป่ วยทางจิตเป็นโ ร คเครี ยด มีอาการซึมเศร้ า ทำร้ ายลูกเป็นประจำทุกวัน และต้องเข้ารับการรั กษาตัวจากหมอจิ ต เว ช

ในช่วงวิก ฤ ตของชีวิตนี้ ครูรุ่งได้มีโอกาสเข้าศึกษาดูงานที่ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงของครูบุญเป็ง จันต๊ะภา ปราชญ์ชาวบ้าน ผู้มีภูมิรู้ด้านเกษตรพอเพียงและการทำเกษตรผสมผสาน ซึ่งยังเป็นอาสาสมัครเกษตรด้านบัญชี ของสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์เชียงรายอีกด้วย ซึ่งในศูนย์เรียนรู้ฯ นี้ ทำให้ครูรุ่งได้เรียนรู้การนำศาสตร์พระราชามาปรับใช้ในการดำเนินชีวิตโดยน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ตามแนวทางพระราชดำริ ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตและรู้จักการจดบันทึกบัญชี เพื่อนำมาวิเคราะห์และวางแผนการใช้จ่ายเงินในครอบครัวและในการประกอบอาชีพ

หลังจดบันทึกบัญชีได้ 3 เดือน ครูรุ่งได้วิเคร าะห์ถึงร ายจ่ายในครอบครัว ซึ่งส่วนใหญ่คือ ค่ากับข้าว และค่าใช้จ่ายสิ่งของฟุ่มเฟือย จึงเกิดแรงบันดาลใจในการน้อมนำพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้พลิกชีวิต โดยใช้การ “ระเบิดจากข้างใน” ลงมือสร้างพื้นที่การเกษตรในบริเวณบ้านที่มีเพียง 53 ตารางวา ของตนเอง ให้เป็นตลาดริมรั้ว ครัวริมบ้าน ปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ ทั้งไก่ เป็ด หมู ปลา และกบ โดยผลิตปุ๋ยอินทรีย์ใช้เองจากวัสดุเหลือใช้จากธรรมชาติ คือ การนำดิน แกลบ ที่อยู่ในคอกหมู เล้าไก่ มาทำเป็นปุ๋ย อีกทั้งสร้างบ่อกำจัดวัชพืชและเศษอาหารภายในบ้าน ทำให้ปราศจากมลภาวะซึ่งเป็นอันตร ายต่อสิ่งมีชีวิต

จากคนที่ไม่เคยทำงานและล้มเหลวในชีวิต ก็มีความสุขจากการทำงานในพื้นที่การเกษตรของตนเอง มีผลผลิตที่ได้จากพืชที่ปลูกและสัตว์ที่เลี้ยงไว้ ซึ่งผลผลิตที่ได้ก็นำไปเป็นวัตถุดิบปรุงอาหารในครัวเรือน เปรียบเสมือนเป็น “ตู้เย็น” ของครอบครัว ที่สามารถนำไปใช้ได้ ไม่ต้องเสี ยเงิ นซื้อ อีกทั้ง ยังแบ่งปันผลผลิตนี้ให้กับคนในชุมชนโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เป็น“ซุปเปอร์มาร์เก็ตที่มีชีวิต”ที่พร้อมเปิดต้อนรับผู้ที่มาเยือนอยู่เสมอ เมื่อเหลือจากรับประทานเองและแบ่งปันให้คนในชุมชนแล้ว จึงค่อยนำไปจำหน่าย สร้างร ายได้ให้กับครอบครัว ทำให้มีเงินเก็บออมมากขึ้นด้วย

ในปี 2552 ครูรุ่ง ได้เข้าร่วมโครงการพัฒนาภูมิปัญญาทางบัญชีสู่ต้นทุนอาชีพของกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ และได้สมัครเป็นอาสาสมัครเกษตรด้านบัญชี (ครูบัญชี) เพราะเห็นความสำคัญของการจดบันทึกบัญชีทั้งบัญชี รับ–จ่าย ในครัวเรือนและบัญชีต้นทุนอาชีพ ทำหน้าที่ถ่ายทอดความรู้การทำบัญชีและการดำเนินชีวิตตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ให้กับผู้ที่มาศึกษาดูงานที่พื้นที่การเกษตรในบริเวณบ้าน ที่ได้ถูกพัฒนาให้เป็น“ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอ”แหล่งศึกษาดูงานขนาดย่อม ที่พร้อมเปิดต้อนรับผู้ที่สนใจมาเรียนรู้วิถีการทำการเกษตรแบบพอเพียง และการทำบัญชีรับ-จ่าย ในครัวเรือน และบัญชีต้นทุนอาชีพ เพื่อใช้วิเคร าะห์วางแผน การใช้จ่ายเงินในครัวเรือนและในการประกอบอาชีพ ลดรายจ่าย เพิ่มร ายได้ ปลดหนี้ มีเงินออม

ปัจจุบัน ครูรุ่ง มีผลงานส่งเสริมให้ประชาชนในท้องถิ่นได้มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ มีบทบาทหน้าที่ในการปกป้องคุ้มครอง ฟื้นฟูการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งครูรุ่งได้บอกว่า การจดบันทึกบัญชีเปรียบเสมือนเส้นทางเศรษฐี ที่จะทำให้ชีวิตของคนที่ทำจริง ปฏิบัติจริง มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซึ่งหากเราปรับเปลี่ยน ชีวิตก็สามารถเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีได้

“จากชีวิตล้มเหลวที่ไม่มีใครยอมรับ ข าดที่พึ่ง เราก็หันมามองตัวเอง เริ่มต้นทำทุกสิ่งที่ในหลวงสอน มาปรับใช้กับชีวิต ทำให้ชีวิตเปลี่ยนไปอย่างสิ้ นเชิง ครอบครัวมีความมั่นคงทางอาหาร มีอาหารการกินอุดมสมบูรณ์ มีรายได้และมีเงินเหลือเก็บออม เศรษฐกิจในครัวเรือนก็ดีขึ้น

ถ้าคุณอยากมีชีวิตที่ดีขึ้นในการประกอบอาชีพต่างๆ แต่หากไม่มีบัญชีมาเป็นตัวชี้นำ ชี้วัดแล้ว ก็หาความสำเร็ จได้ย ากมาก เพราะเราจะไม่รู้ที่มาที่ไป แต่สำหรับดิฉันได้รู้อย่างถ่องแท้แล้วว่า การทำบัญชีมีประโยชน์มากแค่ไหนสำคัญที่สุดคือ ครอบครัวได้แม่คนใหม่ที่มีคุณภาพ เป็นแบบอย่างให้กับลูกๆ ได้ทุกเรื่อง ทั้งเรื่องการทำบัญชี และการใช้ชีวิตอย่างพอเพียง ฉะนั้น ถ้าทุกคนเข้าใจและนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ ประเทศชาติจะมั่นคงและยั่งยืนแน่นอน” คุณขนิษฐา กล่าว หากคุณเชื่อมั่นว่าคุณสามารถทำได้ นั่นเท่ากับว่าคุณได้ทำสำเร็จไปครึ่งหนึ่งแล้ว

Facebook Comments Box