“มะนาวนิ้วมือ” ที่ “สวนจ่ามด” จ.พิจิตร ปลูกง่าย ข ายกิโลกรัมละ 2,000 บ าท

 “มะนาวนิ้วมือ” หรือ “มะนาวคาเวียร์” ซึ่งมะนาวนิ้วมือ เป็นพืชในสกุลเดียวกันกับส้ม มะนาว และเกรปฟรุต มีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศออสเตรเลีย เนื้อผลให้รสเปรี้ยว มีกลิ่นหอม มักใช้ปรุงแต่งรสชาติและกลิ่นอาหารให้มีรสชาติอร่อย

หรือแม้กระทั่งใช้ผสมในเครื่องดื่มหรือใช้ตกแต่งในจานอาหารให้เกิดความสวยงามยิ่งขึ้น ขณะนี้ มะนาวนิ้วมือ ได้รับความสนใจและนิยมปลูก เพื่อกินผล หรือปลูกเป็นไม้ประดับตกแต่งบ้านเรือนเพิ่มมากขึ้นในประเทศไทย

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ลำต้นของมะนาวนิ้วมือมีความสูงประมาณ 5-6 เมตร มีใบขนาดเล็ก  ผิวใบเรียบ ปลายใบหยักมน มีความกว้างประมาณ 3-25 มิลลิเมตร ยาวประมาณ 1-6 เซนติเมตร มีกลีบดอกสีขาว

ยาวประมาณ 6-9 มิลลิเมตร ผลมีลักษณะเป็นรูปทรงกระบอกหรือโค้ง เปลือกผลและเนื้อในมีหลากหลายสีตามสายพันธุ์ และในแต่ละสีก็จะมีกลิ่นที่แตกต่างกันออกไป ขนาดความยาวของผล ประมาณ 4-8 เซนติเมตร

ภายในผลจะมีเมล็ดอยู่ประมาณ 10 เมล็ด ซึ่งจัดว่ามะนาวนิ้วมือเป็นไม้พุ่มขนาดกลาง ใบเรียวเล็กคล้ายมะขวิด มะสัง ในบ้านเรา มีหนามแหลมเล็กเป็นจำนวนมาก

แต่เมื่อย้อนกลับไปเมื่อ 4-5 ปีก่อน ในบ้านเรานั้น มะนาวนิ้วมือ หรือ มะนาวคาเวียร์ ที่คนไทยเรียกกันได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เป็นของใหม่ในบ้านเรา สายพันธุ์มะนาวนิ้วมือถูกนำเข้ามาหลายสิบสายพันธุ์จากต่างประเทศ

ราคาซื้อขายต้นพันธุ์ในตอนนั้นคือ หลักหมื่นไปจนถึงหลักหลายๆ พันบาทเลยทีเดียวแต่เวลาผ่านมา ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่เริ่มขยายพันธุ์และจำนวนได้มากขึ้น ทำให้ราคาก็ถูกลง ซึ่งตอนนี้ก็จะเหลือราคาหลักร้อย

ซื้อหาต้นพันธุ์ได้ไม่ยากเหมือนแต่ก่อนในช่วงแรกที่นำเข้าต้นพันธุ์มานั้น ก็ยังคงไม่ทราบว่า มะนาวนิ้วมือแต่ละสายพันธุ์มีลักษณะผล สี เหมือนกับที่ปลูกในต่างประเทศหรือไม่ และนิสัยการเจริญเติบโตเป็นอย่างไร

ซึ่งบ้านเราอากาศค่อนข้างร้อน 35-40 องศาเซลเซียส เกือบตลอดทั้งปี ทำให้ผู้ซื้อพันธุ์มะนาวนิ้วมือในช่วงแรกๆ ก็ต้องปลูกเพื่อศึกษาว่า มะนาวนิ้วมือแต่ละสายพันธุ์เหมาะกับบ้านเรามากน้อยเพียงใด มีการออกดอกติดผลหรือไม่

ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ จ.อ. สิทธิเดช อ่องเภา เจ้าของ “สวนจ่ามด” ตำบลท่าบัว อำเภอโพทะเล จังหวัดพิจิตร โทร. 083-535-4559, 080-099-9361 หรือผ่านช่องทางเฟซบุ๊ก “มะนาวคาเวียร์ บ้านสวนจ่ามด”

เป็นสวนมะนาวนิ้วมือปลูกจำหน่ายผลในเชิงการค้า ที่เริ่มต้นในยุคแรกๆ ที่มีการปลูกต้นมะนาวนิ้วมือในบ้านเรา โดย จ.อ. สิทธิเดช เล่าย้อนไปว่า เดิมตนเองและครอบครัวปลูกมะนาวเป็นอาชีพอยู่แล้ว

จึงมีความสนใจพืชตระกูลมะนาวเป็นพิเศษ ก็เริ่มจากซื้อต้นพันธุ์เข้ามาปลูกเรื่อยๆ ในช่วง 2-3 ปีแรก เป็นการปลูกและศึกษามะนาวคาเวียร์หลายๆ สายพันธุ์ ว่ามะนาวนิ้วมือสายพันธุ์ไหนที่มีคุณสมบัติที่ดีปลูกในพื้นที่สวนของตนเองได้ดีบ้าง เนื่องจากพื้นที่สวนมีสภาพอากาศร้อนตลอดทั้งปี อุณหภูมิสูง 35-42 องศาเซลเซียส เลยทีเดียว

พบว่า มีมะนาวนิ้วมือมีอยู่ 4 สายพันธุ์ ที่ทนต่อสภาพอากาศร้อนได้ดี ออกดอกและติดผลได้ดี จากกว่า 10 สายพันธุ์ ที่ปลูกไว้ในสวน ซึ่งมีจำนวนต้นมะนาวนิ้วมือราวๆ 800 ต้น ที่ปลูกคละพันธุ์เอาไว้

จนเกิดความมั่นใจในสายพันธุ์ ก็กำลังขยายพื้นที่ปลูกมากขึ้น ในพื้นที่ประมาณ 5 ไร่ ทดแทนของเก่าที่เป็นสายพันธุ์ที่ไม่เหมาะกับพื้นที่สภาพแวดล้อมของสวน ซึ่งไม่ทนต่อสภาพอากาศร้อน การเจริญเติบโตไม่ดี การติดผลไม่ดีหรือไม่ออกดอกติดผล เป็นต้น

สายพันธุ์ มะนาวคาเวียร์ หรือ มะนาวนิ้วมือ ที่พิสูจน์แล้วว่าเหมาะกับสภาพแวดล้อมของสวนตัวเอง โดย จ.อ. สิทธิเดช เล่าว่า สายพันธุ์ที่ตนเองมั่นใจว่าจะขยายพื้นที่ปลูกให้มากเป็นพิเศษเพื่อผลิตผลมะนาวนิ้วมือหรือมะนาวคาเวียร์จำหน่าย ตอนนี้มีอยู่ 4 สายพันธุ์หลักๆ

ที่เก็บข้อมูล สังเกตนิสัยการเจริญเติบโต การให้ผลผลิตออกดอกติดผลง่าย และที่สำคัญทนต่อสภาพอากาศร้อนได้ดี ถือว่าเป็นข้อสำคัญในการเลือกสายพันธุ์อย่างที่บอกว่า ที่สวนในเดือนมีนาคม-เมษายน อุณหภูมิค่อนข้างสูง 38-42 องศาเซลเซียส คือ

1. สายพันธุ์ “ไบร่อน ซันไรส์” (Byron Sunrise) ซึ่งจะมีเนื้อในสีชมพู-แดง

2. สายพันธุ์ “ดิ เอ็มเมอรัล” (D’Emerald) ซึ่งเนื้อในจะมีสีเขียว

3. สายพันธุ์ “เมีย โรส” (Mia Rose) เปลือกสีม่วงแดง ซึ่งเนื้อในจะมีสีชมพูเข้ม-แดง

4. สายพันธุ์ “ริกก์ เรด” (Rick Red) ซึ่งจะมีเนื้อในสีชมพู-แดง

ความพิเศษอีกอย่างหนึ่งของมะนาวนิ้วมือ หรือมะนาวคาเวียร์ นอกจากรสเปรี้ยวและมีกลิ่นหอม คือการนำมาใช้ประโยชน์เมื่อใช้มีดผ่าผล เมื่อใช้มือบีบผลมะนาวเนื้อในจะไหลออกมา จะไม่เกาะติดเปลือกและไม่เกาะติดกันเอง ทำให้เวลาผ่าหรือบีบออกจากผล เนื้อจึงทะลักเป็นเม็ดๆ คล้ายไข่ปลา

การปลูกมะนาวนิ้วมือไม่ยาก

มะนาวนิ้วมือ หรือมะนาวคาเวียร์ปลูกง่ายกว่าปลูกมะนาวมาก เนื่องจากมะนาวนิ้วมือจะไม่พบการระบาดของโรคแคงเกอร์เลย ทำให้การดูแลรักษาง่ายมากขึ้นอีกระดับหนึ่ง มีเพียงแมลงศัตรูที่เหมือนมะนาว คือ เพลี้ยไฟ ไร หนอนกินใบเท่านั้น

ซึ่งใช้สารป้องกันกำจัดศัตรูเช่นเดียวกับมะนาวทุกๆ ประการ รวมถึงการดูแลรักษา บำรุงใส่ปุ๋ยฉีดพ่นปุ๋ยทางใบก็แบบเดียวกันกับมะนาว ยิ่งมีพื้นฐานมะนาวมาก่อนก็ยิ่งง่าย ฉะนั้น สายพันธุ์ที่ปลูกได้ผลดีจึงมีผลมากกว่า

ถ้าจะปลูก ก็ต้องเลือกให้ดี เพราะมะนาวนิ้วมือก็ต้องใช้เวลาปลูกและดูแลจนกว่าออกผลราว 1 ปีครึ่งถึง 2 ปี การติดผลก็จะมากขึ้นตามลำดับ ตามขนาดของทรงพุ่มและขนาดของต้น ยกตัวอย่าง มะนาวนิ้วมือ อายุ 2 ปี

ทรงพุ่มประมาณ 80-100 เซนติเมตร ความสูงประมาณ 150-200 เซนติเมตร จะให้ผลผลิตรวมตลอดทั้งปี 1-3 กิโลกรัม โดยประมาณ แต่ปริมาณผลผลิตจะมากขึ้นตามอายุต้นของมะนาวเอง

จากข้อมูลพบว่า มะนาวนิ้วมือนั้นมีอายุยืนในต่างประเทศ แต่ในบ้านเราก็ต้องดูกันต่อไปว่าจะมีอายุได้นานขนาดไหน แต่เท่าที่ดูนิสัยการเจริญเติบโต อายุของมะนาวนิ้วมือน่าจะเกิน 10 ปีขึ้นไปแบบสบายๆ แต่ก็คงต้องขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมและการดูแลรักษาประกอบกันด้วย

“สวนจ่ามด” เลือกปลูกมะนาวนิ้วมือ ลงวงบ่อซีเมนต์ เพราะสามารถปรุงดินปลูกได้ตามที่ต้องการในช่วง 1-2 ปีแรกของการปลูก เนื่องจากสภาพดินที่นี่ไม่ค่อยดีนัก ก็จำเป็นต้องปรุงดินผสมด้วยเศษวัสดุที่หาได้ในท้องถิ่น เช่น แกลบดิบ แกลบดำ ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก ใบก้ามปู ดินร่วน เป็นต้น โดยเน้นให้ดินมีการระบายน้ำที่ดี

อีกอย่างมะนาวนิ้วมือชอบน้ำ แต่ไม่ชอบน้ำขังแฉะ ซึ่งอาจจะเป็นโรครากเน่าโคนเน่า แล้ววงบ่อซีเมนต์ที่นำมาใช้จะไม่ปิดก้นวงบ่อซีเมนต์ เพื่อมะนาวโตขึ้นมีความแข็งแรงมากขึ้น รากก็สามารถหยั่งลงดินหากินได้เองในอนาคต แล้วทำให้ต้นมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ทุกปีเหมือนกับปลูกลงดิน

ในทุกๆ 6-12 เดือน หากพบว่าดินปลูกในวงบ่อซีเมนต์มีน้อยลง ก็ควรจะเติมดินผสมลงไปให้ในวงบ่อซีเมนต์ตามความเหมาะสม หรือหากเป็นฤดูร้อนซึ่งอากาศร้อนจัดเมื่อปีที่ผ่านมา อุณหภูมิสูง 39-42 องศาเซลเซียส ก็อาจจะต้องหาวัสดุคลุมโคนต้น เพื่อช่วยลดความร้อน รักษาความชื้นในวงบ่อซีเมนต์ เช่น แกลบดิบ เปลือกถั่ว ฟางข้าว เป็นต้น

ข้อดีอีกอย่างในการปลูกมะนาวนิ้วมือในวงบ่อซีเมนต์คือ สามารถจัดการเรื่องวัชพืชได้ง่าย ไม่ว่าจะตัดหญ้า เนื่องจากมีวงบ่อล้อมต้นเอาไว้ เวลาตัดหญ้าก็ไม่ต้องกลัวว่าจะตัดโดนต้นมะนาวแต่อย่างใด หรือปลูกแบบลงดิน

โดยการยกร่องเป็นแถวก็ได้ ตามความเหมาะสมของแต่ละสวน และทุกครั้งที่ปลูกต้นไม้หรือต้นมะนาวจะต้องมีไม้หลักค้ำยันต้น เพื่อไม่ให้ต้นโยกเอนจากแรงลม ซึ่งจะทำให้รากกระทบกระเทือนหยุดชะงักการเจริญเติบโตไป

ระยะปลูกมะนาวนิ้วมือ ตอนนี้ที่สวน ใช้ระยะปลูก 3×3 เมตร อยู่ ก็ดีในระดับหนึ่ง แต่คิดว่าระยะนี้ยังไม่เหมาะสมสำหรับแปลงปลูกที่ต้องการปลูกจำนวนมาก เพราะถ้าจะให้สะดวกเอาเครื่องจักรเล็กเข้าแปลงได้ ก็ควรจะขยับระยะปลูกให้ห่างขึ้นสัก 4×4 เมตร น่าจะเหมาะสมกว่านี้

อีกอย่าง มะนาวนิ้วมือโตค่อนข้างเร็ว อายุต้น 2-3 ปี ก็มีทรงพุ่มขนาดใหญ่พอสมควร แต่ก็ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาและสายพันธุ์ที่เหมาะสมต่อสภาพอากาศร้อน หรือสภาพแวดล้อมในแต่ละพื้นที่เหมือนที่บอกว่าการดูแลไม่ยุ่งยากอะไร ใช้พื้นฐานเดียวกับการปลูกมะนาวในบ้านเรา ทั้งเรื่องการใส่ปุ๋ย ให้น้ำ โรคและแมลง

แนะนำใส่ถุงมือเก็บ

อุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการปลูกมะนาวนิ้วมือในออสเตรเลีย มีข้อมูลว่า อุณหภูมิจะอยู่ระหว่าง 15-29 องศาเซลเซียส โดยเท่าที่ทราบมะนาวนิ้วมือในออสเตรเลียจะไม่มีผลผลิตให้ในช่วงที่มีอากาศหนาวเย็นมาก

แต่ในสภาพแวดล้อมของประเทศไทยกลับติดดอกออกผลได้ตลอดทั้งปี เนื่องจากภูมิอากาศบ้านเราค่อนข้างดีเหมาะสม ไม่มีสภาพอากาศแบบหนาวจัดเหมือนออสเตรเลีย ในบ้านเราก็ปล่อยให้ออกดอกติดผลตามธรรมชาติเหมือนมะนาวแป้นในฤดูกาล คือช่วงฤดูฝนจะติดผลได้ดกมากและติดผลลดน้อยลงไปบ้างในช่วงหน้าแล้ง

Facebook Comments Box