ก่อนอื่นหลายคนไม่รู้ว่าปลาหลดก็สามารถเลี้ยงได้ เป็นปลาเศรษฐกิจตัวหนึ่งทีเดียวหากินยาก เนื้อแน่นรถชาติอร่อย สามารถนำไปทำอาหารได้ทั้งปิ้งย่าง และต้มแกง ไปดูวิธีเลี้ยงกันเลย

ปลาหลด เป็นปลาที่คนไทยรู้จักกันมานาน สามารถจับได้ทั่วไปในแม่น้ำ อ่างเก็บน้ำ บึง หรือตามทุ่งนา ซึ่งเป็นปลาที่นิยมนำมาประกอบอาหารในรูปปลาสด ปลาตากแห้ง หรือทำปลาเค็ม เนื่องจากเนื้อลำตัวด้านข้างจะให้เนื้อแน่น
ไม่มีก้าง เนื้อนุ่ม มีรสมัน โดยในช่วงฤดูฝนถึงปลายฤดูหนาวจะเป็นช่วงที่จับปลาหลดมารับประทานมาก บางพื้นที่มีเกษตรกรนำมาจำหน่ายตามตลาดสด ตลาดหมู่บ้าน ซึ่งมีราคาประมาณ 50-120 บาท/กิโลกรัม เลยทีเดียว

ผ.ศ. หทัยรัตน์ ยังกล่าวอีกว่าเราสามารถเลี้ยงปลาหลดได้ทั้งบ่อดินและบ่อซีเมนต์ โดยที่บ่อซีเมนต์ไม่ต้องมีความสูงมากก็ได้ เนื่องจากว่าปลาหลดเป็นปลาที่ไม่กระโดด อาจจะใช้บ่อซีเมนต์ที่มีความสูงเพียง 50 ซม. ก็เลี้ยงได้แล้ว
ข้อดีของการเลี้ยงด้วยบ่อซีเมนต์นั้นจะทำให้เราสามารถควบคุมการหนีออกจากบ่อของปลาได้ เนื่องจากว่าปลาหลดจะไม่สามารถมุดหนีได้เหมือนกับบ่อดินทั่วไป

วิธีเลี้ยงปลาหลด การเลี้ยงปลาหลด สามารถเลี้ยงได้ทั้งในบ่อดิน และบ่อซีเมนต์ ขนาด 400x400x50-70 เซนติเมตร ผิวบ่อฉาบเรียบและทำให้ลาดเอียง ประมาณครึ่งบ่อ เพื่อให้ทรายปนดินเหนียว ใส่ผักบุ้งไว้เป็นร่มเงา
เติมน้ำให้ท่วมดินทราย ประมาณ 40 เซนติเมตร ปล่อยปลาหลดขนาดความยาว 3-4 นิ้ว จำนวน 2,000-2,500 ตัวควรวางโพรงไม้ไผ่หรือท่อน้ำเก่าๆ ให้ปลาได้หลบอาศัย ส่วนการเลี้ยงในบ่อดิน ต้องมีการเตรียมบ่อที่ดี เช่นเดียวกับการเลี้ยงปลาชนิดอื่น อาจมีการกันดินขอบบ่อโดยใช้มุ้งเขียว ล้อมขอบบ่อไว้

การเพาะและขยายพันธุ์ปลาหลดสามารถทำได้ด้วย 3 วิธี คือ
1 การเพาะขยายพันธุ์แบบธรรมชาติ นำพ่อแม่พันธุ์มาปล่อยเลี้ยงในบ่อซีเมนต์ อัตราพ่อแม่พันธุ์ตัวผู้/ตัวเมียที่ 1:2/ตารางเมตรปล่อยให้พ่อแม่พันธุ์ผสมพันธุ์ และวางไข่เองตามธรรมชาติทำการอนุบาลร่วมด้วยกับการเลี้ยงต่อไปในบ่อซีเมนต์
2 การเพาะขยายพันธุ์แบบเลียนแบบธรรมชาติ ครั้งที่ 1 ผสม Suprefact 25 ไมโครกรัม/ปลาหนัก 1 กิโลกรัม ร่วมกับ Motilium 10 มิลลิกรัม/น้ำหนักปลา 1 กิโลกรัม
ครั้งที่ 2 ใช้ Suprefact 50 ไมโครกรัม/ปลาหนัก 1 กิโลกรัม ร่วมกับ Motilium 10 มิลลิกรัม/ปลาหนัก 1 กิโลกรัม ครั้งที่ 2 ฉีดห่างจากเข็มที่ 1 ประมาณ 6 ชั่วโมง
หลังการฉีดเข็มที่ 2 ประมาณ 12-14 ชั่วโมง พ่อแม่พันธุ์ปลาหลดจะเริ่มผสมพันธุ์ และวางไข่ หลังจากการฟักค่อยนำลูกปลาแยกมาอนุบาล และเลี้ยงต่อ

3 การเพาะขยายพันธุ์แบบผสมเทียม ฉีดฮอร์โมนเร่งความพร้อมของน้ำเชื้อตัวผู้ และการสุกของไข่ตัวเมีย ดังที่กล่าวในวิธีที่2 หลังจากฉีดฮอร์โมนเข็มที่ 2 แล้ว ประมาณ 14 ชั่วโมง ให้รีดไข่ และน้ำเชื้อมาผสมกันภายในภาชนะ
นำไข่ไปพักในบ่อฟักหรือบ่ออนุบาล อนุบาล และเลี้ยงให้เติบโต

การอนุบาลลูกปลา หลังการฟักออกจากไข่ของลูกปลาประมาณ 2-4 วัน จึงเริ่มให้อาหาร ด้วยการไข่แดงต้มสุกที่บดละเอียดสำหรับระยะ 3-7 วันแรก และให้ให้ไรแดง สำหรับระยะ 8-20 วัน พร้อมเปลี่ยนถ่ายน้ำ 2-3 ครั้ง/อาทิตย์ จนลูกปลามีอายุได้ประมาณ 15-20 วัน จึงแยกเลี้ยงในบ่อซีเมนต์ต่อไป
การเลี้ยงลูกปลาหลด หลังจากอนุบาลลูกปลาหลดให้มีขนาดยาวประมาณ 1.5-2 นิ้ว ให้แยกลูกปลาออกมาเลี้ยงในบ่อซีเมนต์ต่อ อัตราการปล่อยที่ 120-150 ตัว/ตารางเมตร
อาหารสำหรับการเลี้ยงปลาหลดในระยะนี้จะให้อาหารได้หลายชนิด อาทิ หนอนแดง ปลาบดสับ ไส้เดือน ลูกปลาขนาดเล็ก และให้ไรแดงร่วมด้วยเป็นระยะหลังจาการเลี้ยงไปแล้ว 6-8 เดือน จะสามารถจับปลาหลดส่งขายได้

วิธีให้อาหารปลาหลด
1 หอยเชอรี่ นำมาทุบแยกเปลือก เนื้อหอย แล้วสับให้ละเอียด นำมากองไว้ ปลาหลดจะเข้ามากิน ควรสังเกตว่าปลาหลดกินเหยื่อหมดภายใน 2-3 วัน หรือไม่ ถ้ากินหมดให้เพิ่มอาหาร ถ้ากินเหลือควรลดอาหารลง พยายามอย่ากระทบกระเทือนบ่อปลาหลดจะตกใจหนี
2 ไส้เดือน เป็นอาหารที่ปลาหลดโปรดปรานมากที่สุด จะให้ช่วงเย็น-ค่ำ ไส้เดือนจะเคลื่อนตัวตามผิวทราย ปลาหลด 1 ตัว จะกินไส้เดือน 1-2 ตัว ปลาจะอ้วน เกล็ดเป็นเงางาม
3 อาหารสำเร็จรูป สามารถใช้อาหารเม็ดจมสำหรับกุ้งก้ามกราม จะทำให้ปลาหลดเจริญเติบโตได้ดีเช่นเดียวกัน

การเลี้ยงใช้เวลา 6-7 เดือน จะได้ขนาดปลาหลดที่จำหน่าย ประมาณ 30-40 ตัว ต่อกิโลกรัม และอายุ 1 ปี สามารถเป็นพ่อแม่พันธุ์ได้
เมนูจากปลาหลด

เมนูอาหารที่นิยมทำจากปลาหลด ได้แก่ ปิ้งปลาหลด แกงปลาหลด ปลาหลดทอดกรอบ ทอดปลาหลดแดดเดียว เป็นต้น

ทั้งนี้ บางพื้นที่จะไม่นิยมควักไส้ออก แต่จะนำไปประกอบอาหารทั้งตัว โดยเฉพาะเมนูการปิ้งย่าง เพราะปลาชนิดนี้ มีลำไส้น้อย แต่โดยทั่วไปคนในทุกภาคจะใช้วิธีควักไส้ออกก่อนนำไปปรุงอาหาร

ขอขอบคุณบทความดีๆจาก ขอขอบคุณที่มาจาก : siamtodaynews , newsliveth.com