รางปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ ทำเองจากท่อ PVC

รางปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ ทำเองง่าย ๆ โดยใช้ท่อ PVC ไว้ปลูกผักกินที่บ้าน ไม่ต้องไปหาซื้อชุดปลูกราคาแพง ๆ มาทดลองปลูกให้ยุ่งยาก มาดูขั้นตอนทำรางปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ วิธีปลูกผักไฮโดรโปนิกส์แบบประหยัดกัน

รางปลูกผักไฮโดรโปนิกส์สำเร็จรูปแพงซะเหลือเกิน… คุณ ตั้ม ซิงกอร์ สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม จึงได้ทำการค้นคว้าหาข้อมูล จนไปเจอข้อมูลที่น่าสนใจและนำมาทดลองทำรางปลูกผักไฮโดรโปนิกส์

ทำเองจากท่อ PVC ด้วยตัวเอง ซึ่งก็พบว่าการทำรางปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ไม่ยากเลย สามารถใช้ปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ได้จริง แถมราคาวัสดุก็ไม่แพง เป็นการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์แบบประหยัด

ที่น่าทำไว้ปลูกผักกินเองที่บ้านมาก ๆ เลยรางปลูกผักไฮโดรโปนิกส์กึ่งน้ำลึกจากท่อ PVC ทำเองให้เข้ากับพื้นที่ ไม่ยากครับ โดย คุณ ตั้ม ซิงกอร์ สมาชิกเว็บไซต์พันมิปดอทคอม

สวัสดีผู้ที่สนใจการเกษตรทุกท่านครับ วันนี้ผมจะมานำเสนอการสร้างรางปลูกผักไฮโดรโปนิกส์กึ่งน้ำลึกจากท่อ PVC สืบเนื่องจากเมื่อก่อนผมคิดจะปลูกผักในระบบนี้ แต่ก็ติดปัญหาที่เราไม่สามารถหารางปลูกมาทดลองปลูกได้

ชุดทดลองปลูกตอนนั้นก็แพงกว่าปัจจุบันมาก เรียกได้ว่า 1 ชุด ราคา 3,000 กว่าบาทขึ้นไปเลยทีเดียว จึงค้นหาข้อมูลจนได้เป็นแนวทางและแรงบันดาลใจที่ทำให้ผมหันมาปลูกผักในระบบไฮโดรโปนิกส์ครับ

รางปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ทำเองแต่จากการใช้ท่อ PVC ขนาด 2 นิ้ว โดยให้น้ำไหลผ่าน ในสภาพพื้นที่บ้านผมเกิดปัญหาน้ำในระบบร้อนทำให้รากเน่าตาย หากผักเจริญเติบโตเต็มที่ รากจะคับรางทำให้น้ำไหลไม่สะดวก

และปัญหาความเสถียรเรื่องพลังงานไฟฟ้าเพราะบ้านผมไฟดับบ่อย (ชนบทฝนตกนิดหน่อยไฟฟ้าก็ดับแล้ว ฮ่า ๆ) หากเราไม่เฝ้าผักไว้ ผักก็จะเหี่ยว และถ้าไฟฟ้าดับนานเกิน 15-30 นาที ผักอาจถึงเสียหายได้

จึงเป็นเหตุให้ต้องปรับระบบรางน้ำไหลผ่านเป็นระบบอื่น ซึ่งก็ได้ระบบรางกึ่งน้ำลึกมาแทน (น้ำลึก 2-4 เซนติเมตร) ซึ่งท่อ PVC ขนาด 2 นิ้วที่ใช้นั้นไม่เหมาะสม เป็นเหตุให้ต้องเปลี่ยนจากขนาด 2 นิ้ว เป็นขนาด 3 นิ้ว แล้วตั้งโต๊ะในแนวระนาบแทน เพื่อให้มีน้ำขังในท่อ กรณีเกิดเหตุไฟดับเป็นชั่วโมง ผักจะได้ไม่ตายครับ

รางปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ทำเองสิ่งที่เราต้องมีนะครับ
1 สว่าน – ใช้เจาะท่อ
2 ปากกาเคมีหรือดินสอ – ใช้จุดทำเครื่องหมายระยะรูที่เราจะเจาะ
3 ไม้บรรทัดหรือเครื่องมือวัด

4 อุปกรณ์ใช้เขี่ยท่อที่ติดโฮลซอ (ผมใช้ตะปูยาว 3 นิ้ว งอปลาย)
5 ดอกสว่าน 5.0 ใช้เจาะรูน้ำออก ท่อส่งน้ำเข้าโต๊ะปลูก และใช้เจาะนำร่องในการเจาะท่อปลูก (เจาะนำร่องของผมใช้เบอร์เล็กกว่าอีก 1 ดอก)

6 โฮลซอขนาด 13/8 นิ้ว หรือ 35 มิลลิเมตร และขนาด 7/8 นิ้ว หรือ 22 มิลลิเมตร
7 ตะไบกลม – ใช้ลับขอบท่อที่เจาะ

8 ท่อ PVC ฝาครอบ ข้อต่อ (ที่จะใช้ทำโต๊ะปลูกและระบบส่งน้ำ) แล้วแต่เราจะออกแบบครับ แต่ท่อปลูกผักในระบบนี้เป็นท่อ 3 นิ้ว เอาขอบบางพอครับไม่ต้องเอาหนา
9 ปั๊มน้ำตู้ปลาและถังน้ำสารละลาย

-กระถางที่ผมใช้ปลูกผักเป็น กระถางนิ้ว ซึ่งเป็นกระถางสำหรับใช้อนุบาลกล้วยไม้ครับ

-อันดับแรกมัดท่อที่เราจะเจาะให้แน่นทั้งหัวและท้าย ป้องกันรูไม่ตรง เพราะเราไม่มีสว่านแท่น

-จากนั้นทำการวัดระยะห่างระหว่างรูที่จะเจาะเป็นช่องปลูก โต๊ะปลูกใหญ่ผมใช้ระยะ 20 เซนติเมตร โต๊ะอนุบาล 2 และโต๊ะปลูกผักไทย-จีนผมใช้ระยะ 15 เซนติเมตร ส่วนโต๊ะอนุบาล 1 ผมใช้ระยะ 6 เซนติเมตรครับ แล้วใช้ปากกาจุดเพื่อกำหนดตำแหน่งไว้ จากนั้นทำการเจาะนำแล้วตรวจสอบดู หากรูไหนเบี้ยวมากต้องเจาะใหม่ให้ตรงมากที่สุด

-แล้วทำการเจาะจริงกับโฮลซอขนาด 35 มิลลิเมตรครับ

-เมื่อเจาะเสร็จก็จะได้แบบในรูปครับ รูปที่ 1 เป็นท่อปลูกขนาด 3 นิ้ว รูปที่ 2 เป็นรางอนุบาล 1 ครับ

-โต๊ะปลูกใหญ่ท่อ 3 นิ้ว หากทำเป็นโต๊ะยาวเกิน 2 เมตร แนะนำให้เจาะรูระบายอากาศด้วยครับ ใช้โฮลซอขนาด 22 มิลลิเมตรเจาะ (หากใช้ขนาด 35 มิลลิเมตร สัตว์ตระกูลกบจะลงไปไข่ไว้ในรางได้)

โดยนับจากหัวรางปลูกไป 2 ช่อง แล้วเจาะตรงกลางระหว่างช่องที่ 2 กับช่องที่ 3 จากนั้นนับช่องที่ 3 เป็น 1 นับไป 4 แล้วเจาะตรงกลางระหว่างช่องที่ 4 กับช่องที่ 5 จากนั้นนับช่องที่ 5 เป็น 1 นับไป 4 แล้วเจาะเหมือนเดิม ทำอย่างนี้วนไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะหมดรางครับ

-เมื่อเจาะเสร็จแล้วให้ใช้ตะไบกลมลบเหลี่ยมรอยเจาะครับ หากไม่ลบเวลาถอนผักมันจะบาดราก ทำให้รากขาด

-เสร็จแล้วได้แบบนี้ครับ สวย สะอาด ไม่บาดมือ

-จะใส่กระถางได้แบบในรูปครับ โฮลซอขนาด 35 มิลลิเมตร จะยัดกระถางเข้าไปไม่สุดนะครับ ข้อดีของมันคือเมื่อนำกระถางใส่ในช่องแล้วจะแน่น ทำให้เวลาลมพัดต้นผักจะไม่เอียงหรือหลุดออกจากรางปลูกง่าย ๆ (หากฟองน้ำไม่หลุดจากกระถาง)

-ต่อไปเรามาทำฝาครอบท้ายรางกันครับ เริ่มจากนำฝาครอบ PVC ขนาด 3 นิ้วมาเจาะด้วยโฮลซอขนาด 22 มิลลิเมตรครับ โดยวัดจากเส้นผ่านศูนย์กลาง (เอาให้เข้ากลางที่สุดก็แล้วกัน) วัดจากขอบของฝาครอบลงมา 6 เซนติเมตร

แล้วเจาะครับ (รูป 1) ตะไบขอบออกเล็กน้อย จากนั้นนำข้องอ PVC ขนาด ½ นิ้วเกลียวนอก (รูป 2) มาทากาวทาท่อตรงเกลียวและโคนเกลียว แล้วยัดลงในรูที่เราเจาะ (รูป 3) ให้ข้องอชี้ลงในแนวเส้นผ่านศูนย์กลาง ทากาวรอยต่อด้านนอกอีกชั้นกันรั่วก็จะได้เหมือนในรูป 4 ครับ

-เมื่อทุกอย่างพร้อมก็นำท่อที่ทำเป็นรางปลูก ฝาครอบปิดหัวราง (ใช้ข้องอ PVC ขนาด 3 นิ้ว) ฝาครอบปิดท้ายราง (ฝาครอบที่เราทำ) เอาทั้งหมดมาประกอบเข้าด้วยกัน (จะทากาวกันรั่วหรือไม่แล้วแต่ความสมัครใจนะครับ) ของผมทาเพราะถ้าไม่ทามันจะมีน้ำซึมออกมาตลอดครับ เสร็จแล้วก็ทาสีขาวครึ่งบนของรางครับ

-ใช้ตะขอเกี่ยวกระเบื้องมุงหลังคา (ถูกดี) ดัดเหมือนในรูปครับ แต่ให้เล็กกว่าท่อที่เป็นรางสัก 2-3 มิลลิเมตร เพื่อใช้เป็นตัวยึดรางปลูก โดยนำมาผูกติดไว้กับคานแรกหัวแปลงของโต๊ะ และปลูกตามระยะของแต่ละรางปลูกครับ (ของผมโต๊ะบนสุดใช้ระยะ 30 เซนติเมตรครับ เพื่อให้มีแสงส่องลงมาถึงชั้น 2 และ 3 ด้วย)

-ที่ยึดรางท่อขนาด 3 นิ้วครับ

-ที่ยึดรางท่อขนาด 2 นิ้วครับ

-เสร็จแล้วก็นำรางปลูกประกอบเข้ากับโต๊ะ ตั้งรางปลูกให้อยู่ในระดับเดียวกัน (ไม่ต้องเอียง หากเอียงน้ำจะไม่ขังในท่อ เวลาไฟดับผักจะตาย) วางระบบน้ำเข้าจากในรูปของผมอันนี้เป็นแปลงปลูกยาว 2 เมตร ใช้ท่อ 2 ชั้น

โดยมีท่อซ้อนกัน 1 แถว ผมเดินน้ำเข้าท่อบนครับ จากนั้นต่อปลายท่อท้ายรางบนมาเข้าเป็นท่อจ่ายน้ำให้รางด้านล่าง 5 รางปลูก โดยใช้ท่อพีวีซีขนาด ½ นิ้ว ในการจ่ายน้ำเจาะด้วยดอกสว่าน 5.0 ตรงตำแหน่งกลางรางปลูกที่ท่อส่งน้ำไหลผ่าน

-หัวท่อส่งน้ำ ผมใช้ข้องอต่อลงไปในท่อปลูกต่อฝาครอบ แล้วเจาะรูฝาครอบครับ อันนี้ใช้เป็นตัวยึดแนวท่อส่งน้ำกับปากรางปลูกไม่ให้ท่อจ่ายน้ำออกจากรางปลูก เวลาเราเดินชนโต๊ะหรือมีอะไรไปกระแทกมันเข้า

-อันนี้ท่อส่งน้ำที่รางปลูกแถวกลางครับ

-หากทำท่อส่งน้ำเข้ากลางโต๊ะแล้วแยกซ้าย-ขวา ก็จะทำการต่อข้องอลงไปที่ปลายท่อทั้งซ้ายและขวาครับ เพื่อยึดไว้ไม่ให้จ่ายน้ำออกไปนอกท่อรางปลูก

-ดอกสว่าน 5.0

-ในส่วนท้ายราง ให้เจาะท่อพีวีซีขนาด 1.5 นิ้ว ด้วยโฮลซอขนาด 35 มิลลิเมตร ตรงตำแหน่งที่จะยึดรางปลูก แล้วนำมาสวมตรงปลายข้องอของฝาครอบท้ายรางปลูก เพื่อเป็นการยึดรางปลูกให้มีระยะห่างเท่ากัน แล้วตั้งระดับให้ด้านที่ยึดท่อแรกสูงกว่าท่อสุดท้าย (ด้านที่ต่อท่อน้ำกับถังสารละลาย)

-หากท่อสุดท้ายหรือท่อก่อนหน้านี้ มีระดับข้องอที่อยู่สูงกว่าท่อส่งน้ำกลับ ให้นำท่อพีวีซีขนาด ½ นิ้ว สั้น ๆ มาต่อให้ปากท่อลงไปในรางครับ ไม่อย่างนั้นน้ำจะไม่ลงในท่อส่งน้ำกลับ

-ท่อส่งน้ำกลับเมื่อต่อครบทุกรางแล้ว ให้ต่อข้องอหรือสามทางแยกลงในแนวดิ่ง แล้วทำการลดขนาดท่อจาก 1.5 นิ้ว ไปเป็น 1 นิ้ว แทนครับ (เพราะท่อขนาด 1 นิ้ว ถูกกว่า)

-เดินท่อน้ำกลับมายังถังสารละลาย ถังน้ำผมใช้ถังทรงสูงขนาด 14-16 แกลอน ระดับน้ำยิ่งสูงยิ่งดีครับ เพราะมันจะทำให้ปั๊มส่งน้ำได้สูงและมากขึ้นครับ

-ต่อปั๊มกับท่อส่งน้ำ เติมน้ำ เปิดปั๊ม เพื่อทดสอบระบบ หากไม่รั่วและน้ำกลับมาลงถังได้ ไม่ล้นตรงไหน ก็ทำการปลูกได้เลยครับ เป็นอันเสร็จสิ้น (ปั๊มน้ำผมใช้ขนาด AP 2500 หรือ AP 2550 เนื่องจากระบบรางปลูกของผมสูงจากพื้นเกือบ 1.5 เมตรครับ)

-เมื่อระบบเสร็จสมบูรณ์ก็ปิดฝาถัง เพื่อป้องกันสิ่งปนเปื้อนจะลงไปในถังและป้องกันการเกิดตะไคร่น้ำ แต่ควรเปิดฝาถังให้อากาศเข้าได้นิดหน่อย เพื่อระบายความร้อนของน้ำในระบบปลูกด้วยครับ

-เสร็จแล้วครับ แค่นี้เราก็ข้ามปัญหาเรื่องไฟดับไปได้เลย หากไฟดับให้ขึงสแลนช่วยในช่วงเที่ยงหรือบ่ายด้วยนะครับ ถึงน้ำในรางจะไม่ร้อนจนทำให้รากผักเน่าได้ แต่อากาศด้านบนยังร้อนอยู่ก็ทำให้ผักเหี่ยวได้เช่นกันครับ

(เรื่องราคาหรือต้นทุนการทำไม่ต้องถามผมนะครับ เพราะผมจำไม่ได้แล้ว ให้คุณนำวัสดุต่าง ๆ ที่ผมกล่าวมาข้างต้นไปถามที่ร้านก่อสร้างแถวบ้านเอานะครับ แต่ละที่ราคาจะไม่เท่ากันครับ)

-การทำความสะอาดรางปลูกท่อขนาด 2 นิ้ว และท่อขนาด 1.5 นิ้ว ให้ใช้แปรงถูขวดนมเด็กถูในรางได้เลยครับ ส่วนท่อใหญ่ให้คว่ำท่อ โดยเอาช่องปลูกลง แล้วฉีดน้ำแรงดันสูง ๆ เหมือนที่เขาล้างรถเข้าไปแทนการถูครับ

-ช่องปลูกที่ใช้โฮลซอขนาด 35 มิลลิเมตร รูเจาะจะสามารถยึดกระถางนิ้วกล้วยไม้ได้ดีครับ เมื่อปลูกแล้วต้นจะไม่โยกไป-มา (ยกเว้นต้นมันยืน)

-อันนี้กวางตุ้งครับ อยู่ได้สบายไม่หลุดร่วงออกจากรางปลูก

-ช่องปลูกขนาด 35 มิลลิเมตร สามารถนำมาดัดแปลงใช้ถาดหลุม 105 หลุมมาเป็นถ้วยปลูกได้ด้วยครับ

-โดยทำการตัดแบ่งออกเป็นหลุม ๆ หากตัดอย่างระมัดระวัง จะได้กระถางปลูกถึง 105 กระถาง ใช้แทนกระถางปลูกเขียว ๆ ในระบบไฮโดรโปนิกส์ได้สบายครับ ในรูปผมใช้หินภูเขาไฟที่ใช้อนุบาลลูกกล้วยไม้รองเท้านารี

แทนเพอร์ไลท์ครับ จะเอาเพอร์ไลท์ก็ได้ หรือหากต้องการประหยัดต้นทุนลงไปอีก ผมแนะนำหินภูเขาไฟหรือเพอร์ไลท์ผสมกับขุยมะพร้าว ในอัตรา หิน 1 ส่วน ต่อขุยมะพร้าว 2 ส่วนครับ

วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้เริ่มปลูกใหม่ ๆ นะครับ มันเพาะเมล็ดได้ง่ายกว่าเพาะในฟองน้ำเยอะ แค่เอาเมล็ดทิ้งไว้บนหินภูเขาไฟ แล้วนำถาดใส่น้ำมารองด้านล่างมันก็งอกแล้วครับ

-ต้นนี้…แตงกวาครับ

-ต้นนี้…กวางตุ้งฮ่องเต้

-ต้นนี้…ผักชี ปลูกวิธีนี้ได้กินรากด้วยนะครับ ฮ่า ๆ ปลูกในฟองน้ำต้องมานั่งแกะฟองน้ำอีก

-ต้นนี้…กรีนคอส

-ต้นนี้…ผักขึ้นฉ่าย

-ส่วนต้นนี้…ลูกบัตเตอร์เฮด เพาะกับขุยมะพร้าวเพียว ๆ เลยครับ แต่การใช้ขุยมะพร้าวเป็นวัสดุเพาะเพียงอย่างเดียว ไม่แนะนำสำหรับมือใหม่นะครับ เพราะจะชื้นถึงขั้นแฉะเลยล่ะ

-ต้นนี้…ตอแตงกวาครับ ต้นใหญ่แล้ว

-หมดแล้วครับ ขอจบด้วยต้นสตรอว์เบอร์รี่ละกันครับ กำลังทดลองปลูกอยู่ ต้นนี้เพาะจากเมล็ดครับขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ ตั้ม ซิงกอร์ สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

Facebook Comments Box