เผยชื่อเกจิดัง หลวงปู่ทองพูน เขมเปโม หลวงปู่ 5 แผ่นดิน อายุ 109 ปี

ร่วมอนุโมทนาสาธุ พบหลวงปู่ 5 แผ่นดิน วัย 109 ปี เผยละทางโลกเข้าหาธรรมบวชเป็นเณรเมื่ออายุ 8 ขวบ เกิดปี 2454 ในปลายรัชสมัยรัชกาลที่ 5 เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่สร้างความฮือฮาเป็นอย่างมากหลวงปู่ทองพูนเป็นพระเกจิอาจารย์ผู้เรืองวิชาอาคมได้เล่าเรียนสรรพวิชามากมายจากพ่อแม่ครูบาอาจารย์เป็นผู้รอบรู้ในทุกด้านทั้งว่านยาสมุนไพรอักขระเลขยันต์หลวงปู่ทองพูนท่านว่าคนเราส่วนมากนี้ก็อายุราว 70-80 ปีก็ถือว่าอายุยืนยาวแล้วฉันเองที่มีอายุ 109 ปี

ก็ผ่านเรื่องราวมามากมายตั้งแต่มาอยู่ถ้ำจำปาทองก็หลายสิบปีแล้วตอนมาอยู่ใหม่ ๆ ได้นิมิตเห็นพญาเต่าอยู่ในถ้ำจำปาทองแห่งนี้ติดกันอยู่หลายคืนจึงได้ตั้งจิตเข้าก ร ร มฐานเพ่งกระแสจิตอยู่ในบริเวณถ้ำจำปาทองมีก้อนหินหนึ่งก้อนเหมือนพญาเต่าอยู่หน้าปากถ้ำจำปาทองหลวงปู่จึงได้ตั้งจิตอธิษฐานหากมีบุญบารมีจะสร้างพญาเต่าเรือน

หลังจากนั้นเป็นต้นมาจึงได้นำเต่าหินมาจารอักขระเลขยันต์แล้วอธิษฐานจิตปลุกเสกพญาเต่าให้ลูกศิษย์บูชาครั้งแรกทำไว้ไม่มากใครมาทำบุญก็มอบให้เข าเอาไปบูชาหลังจากนั้นไม่นานลูกศิษย์ที่ได้บูชาไปก็มาเล่าให้หลวงปู่ฟังว่าหลังจากที่บูชาพญาเต่าไปแล้วค้าข ายดีแถมได้เลื่อนยศเลื่อนตำแหน่งหลวงปู่จึงได้อธิษฐานจิตสัจจะบารมีไว้ว่าหากมีบุญวาสนาจะได้สร้างพญาเต่าเรือนขอให้ผู้มีบุญสัมพันธ์กันไม่ว่าจะชาติใด ๆ ก็ตาม

มาช่วยเราร่วมสร้างทานบารมีเพราะพญาเต่าเรือนท่านเป็นพระโพธิสัตว์เรื่องราวตำนานพระเจ้า 500 ชาติก็คือ“ พญาเต่าเรือนเครื่องรางที่เรียกว่าพญาเต่าเรือนนี้นับเป็นเครื่องรางที่เก่าแก่และได้รับความนิยมอย่างมากเพราะจากการศึกษานั้นพบว่าเครื่องรางประเภทพญาเต่าเรือนนั้นมีทั้งยันต์มีทั้งการหาซากเต่าที่แห้งต า ยรวมไปถึงการสร้างพญาเต่าเรือนจากวัสดุต่างๆลงอาคมจนมีความขลังศักดิ์สิทธิ์เกิดขึ้นบางคณาจารย์มีการปลุกเสกจนกระทั่งหุ่นพญาเต่าเรือนสามารถเดินคืบคลานได้อย่างน่าอัศจรรย์ศาสตร์การสร้างพญาเต่าเรือนนั้นกล่าวว่า

แต่เดิมมีตำนานว่าพระพุทธเจ้าเสวยชาติเป็นพญาเต่ามีร่างกายใหญ่มากเท่าเรือนคนอยู่จำศีลอยู่ในเกาะแห่งหนึ่งมีอายุยืนยาวนานมานับร้อย ๆ ปีจนมาวันหนึ่งมีผู้คนเดินเรือนสำเภาเพื่อไปทำการค้าข าย แต่เกิดพายุฝนอย่างหนักทำให้เรือแตกเสียหายผู้คนเหล่านั้นติดอยู่บนเกาะแห่งนี้เป็นเวลานานจนกระทั่งอาหารบนเกาะมีน้อยลง

ต่อมาด้วยความอดอยากทำให้คนบนเกาะหันมาฆ่ ากันเพื่อเอาเนื้อหนังของอีกฝ่ายมาประทังชีวิตพญาเต่าเรือนโพธิสัตว์ได้เห็นเหตุการณ์มาโดยตลอดเกิดความสลดสังเวชใจและจิตก็ปรารถนาจะช่วยเหลือเพื่อสืบสานบารมีแห่งพระโพธิญาณพญาเต่าเรือนจึงกล่าวแก่คนทั้งหลายว่าอย่าทำบ าปแก่กันและกันเลยตนจะขอสละชีวิตเลือดเนื้อเพื่อเป็นอาหารแก่ท่านทั้งหลายเมื่อกล่าวดังนั้นแล้วพญาเต่าเรือนจึงได้ขึ้นไปบนยอดเข าจากนั้นทำการกลิ้งตัวเองลง

มาทำให้กระดองที่หุ้มตัวแตกออกเนื้อหนังฉีกเป็นชิ้น ๆ และสิ้นใจลงและยังได้นำเอากระดองของพญาเต่าเรือนที่มีขนาดใหญ่มากมาทำเป็นเรือดินทางในทะเลจนกระทั่งกลับถึงบ้านไปพบหน้าลูกเมียของตนได้ชาวเรือเหล่านั้นได้ระลึกถึงพระคุณของพญาเต่าเรือนจึงได้วาดภาพแล้วสักการบูชาเพื่อเป็นสิริมงคลจากเรื่องราวตามตำนานดังนี้

ทำให้ในกาลต่อมามีการคิดประดิษฐ์เลขยันต์คาถาอาคมเครื่องรางของขลังในลักษณะของเต่าเรือนเรื่อยมาด้วยเชื่อกันว่าทำให้ทำมาค้าข ายดีการบูชาพญาเต่าเรือนนั้นท่านว่าให้จุดธูป 3 ดอกแล้วระลึกถึงคุณพระรัตนตรัยเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุดในจักรวาลและในชาติหนึ่งขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้นพระองค์เคยเสวยชาติเป็นพญาเต่าเรือนได้สละเลื อดเนื้อชีวิตเพื่อเป็นทานแก่สัตว์ผู้ย าก

เป็นพระโพธิสัตว์องค์ประเสริฐด้วยบารมีอันยิ่งใหญ่ย ากที่ผู้ใดจะสามารถเสียสละดังนี้ได้จึงนับเป็นมหากุศลน้อมนำมาเป็นบุญบารมีเพื่อความสุขความเจริญในชีวิตของเราได้เมื่อได้อธิษฐานจิตดังนี้แล้วเชื่อว่าจะบังเกิดความสุขความเจริญทำมาค้าข ายดีสำหรับการตั้งบูชาพญาเต่าเรือนนั้นท่านว่าให้ตั้งไว้สูงกว่าเทพเทวดาทั่วๆไปเพราะพญาเต่าเรือนเป็นพระโพธิสัตว์และเป็นชาติหนึ่งของพระพุทธเจ้า แต่ต้องต่ำกว่าพระพุทธรูปการบูชานั้นหลาย ๆ ที่มักนำน้ำมาหล่อเอาไว้พร้อมทั้งมีผักบุ้งลอยเอาไว้หรือดอกมะลิกลีบกุหลาบลอยไว้ด้วยคอยเติมน้ำให้เต็มเสมอ ๆ

เพราะเชื่อกันว่าหากน้ำลดจะทำให้โชคลาภหดเหือดตามไปด้วยและต้องทำน้ำให้สะอาดเสมอ ๆ จะได้มีความสดใสและชุ่มเย็นในชีวิตถ้าเป็นพญาเต่าเรือนขนาดเล็กบางคนถือเคล็ดเอาไว้ในที่เก็บเงินหรือตั้งไว้ที่ตู้เซฟส่วนคาถาบูชานั้นท่านว่ามีหลายคาถาด้วยกัน แต่ที่นิยมใช้คือหัวใจพญาเต่าเรือนท่องว่า“ นาสังสิโมสังสิโมนาสิโมนาสังโมนาสังสิ” เป็นคาถาที่เชื่อกันว่าศักดิ์สิทธิ์มากและจากพระคาถานี้ครูบาอาจารย์นำมาเขียนลงในช่องตารางที่มีลักษณะคล้ายกระดองเต่าเติมหัวเติมหางลงไปจนเป็นภาพเต่าขึ้นมาถือกันว่าเป็นพระยันต์

ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนักติดไว้กับบ้านก็ทำให้ร่มเย็นเป็นสุขติดไว้กับร้านค้าก็ค้าข ายดีมีกำไรหากติดตัวเอาไว้เป็นเสน่ห์เมตตามหานิยมนอกจากนี้ยังมีการทำรูปยันต์เป็นพญาเต่าเรือนน้อยเต่าเรือนใหญ่ที่มีอานุภาพในการระงับคดีความซึ่งครูบาอาจารย์เล่าว่าหากเกิดคดีความอันเป็นการใส่ร้ายป้ายสีให้ทำการท่องพระคาถาพญาเต่าเรือนและบูชาพญาเต่าเรือนโทษทัณฑ์ที่มีอยู่คดีความที่กำลังเป็นปัญหาก็จะสูญสิ้นไปเป็นอัศจรรย์และด้วยอานุภาพนี้จึงเรียกพญาเต่าเรือนอีกนัยหนึ่งว่า“ พญาเต่าเรือน” ซึ่งหมายถึงการลบเลือนคดีความที่มีอยู่นั่นเองการทำวัตถุมงคลพญาเต่าเรือนก็จะทำการปั้นหุ่นทั้งจากดินจากปูนหรือหล่อโลหะเป็นรูปเต่าที่กระดองจะลงอักขระคาถาเอาไว้รวมทั้งที่ใต้ท้องเต่าเรือนด้วยถ้าเป็นผงครูบาอาจารย์จะหาว่านเต่านำโชค

ซึ่งถือว่าเป็นว่านที่มีฤทธิ์ทั้งทางโชคลาภและคงกระพันในตัวมาเป็นมวลสารสำคัญจากนั้นทำการปลุกเสกจนกระทั่งเต่าเรือนนั้นเคลื่อนตัวได้ท่านว่าเต่าเรือนดังกล่าวจะมีอานุภาพทางเมตตามหานิยมและนำพาโชคลาภได้ดีที่สุดครูบาอาจารย์บางท่านมีการใช้วิชาพญาเต่าเรือนอีกรูปแบบหนึ่งเรียกกันว่าวิชาพญาเต่าคำนอกจากนี้ยังมีวิชาเต่าเงินเต่าทองซึ่งเป็นสายวิชาทางพญาเต่าเรือนด้วยกันทั้งสิ้นมีอานุภาพสำคัญทางด้านโชคลาภเมตตามหานิยม

แต่ต้องมีพญาเต่าอยู่คู่กันตัวหนึ่งเป็นเต่าเงินตัวหนึ่งเป็นเต่าทองถือว่าเป็นของขลังประจำบ้านหรือร้านค้าได้อย่างดีอีกชนิดหนึ่งเช่นกันการอาราธนาพญาเต่าเรือนนั้นผู้ที่พกพาหรือบูชาควรหมั่นทำการฝึกฝนสมาธิจิตด้วยเพราะหากท่านสมาธิจิตดีย่อมทำให้การท่องคาถาพญาเต่าเรือนมีความขลังความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้นผู้ที่หมั่นฝึกภาวนาท่องพระคาถาพญาเต่าเรือนจนได้สมาธิจิตชั้นสูงนั้นท่านว่าขนาดยื่นมือไปตบหัวเด็กเด็กยังไม่โกรธเลยและแน่นอนว่าหากภาวนาคาถานี้เป็นอารมณ์ในใจเสมอ ๆ บุคคลผู้นั้นย่อมเป็นเมตตามหานิยมอย่างสูงส่งและมีโชคลาภไม่ข าดสายโดยไม่ต้องสงสัยเลยเพราะหากใครก็ตามที่มีวัตถุมงคลพญาเต่าเรือนบูชาประกอบกับการท่องพระคาถาเป็นประจำเสมอ ๆ

อยู่แล้วย่อมเกิดฤทธิ์ทางเมตตามหานิยมสูงส่งมีโชคลาภถึงขนาดที่ว่าอาจกลายเป็นเศรษฐีเพราะเรื่องของอำนาจจิตผนวกกับอำนาจของคุณพระรัตนตรัยและคุณพระโพธิสัตว์พญาเต่าเรือนนั้นย่อมเป็นพลังงานที่มีอานุภาพมหาศาลสามารถเปลี่ยนวิถีชีวิตภูมิชีวิตของผู้ที่ศรัทธาได้อย่างอัศจรรย์ แต่ทั้งนี้บุคคลผู้นั้นต้องมีศรัทธาอย่างแน่วแน่ในความศักดิ์สิทธิ์หลวงปู่ทองพูนเขมเปโมสำนักปฏิบัติธรรมถ้ำจำปาทองจ. ราชบุรีพระเกจิอาจารย์ผู้มีอายุยืน 109 ปี

เป็นผู้รักความสันโดษไม่ยึดติดในลาภยศสรรเสริญใด ๆ เป็นผู้เสียสละมาโดยตลอดเป็นผู้นอบน้อมไม่โอ้อวด แต่อย่างใดหลวงปู่ทองพูนท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีความจำเป็นเลิศเมื่อครั้งก่อนที่ท่านจะประสบอุบัติเหตุท่านเป็นลูกศิษย์พระเกจิอาจารย์อยู่หลายรูป

1หลวงพ่อสดวัดปากน้ำสุดยอดพระอริยะสงฆ์คงไม่มีใครไม่รู้จักหลวงปู่ได้รับการบวชเณรและบวชพระจากหลวงพ่อสดวัดปากน้ำพร้อมทั้งถ่ายทอดวิชามหาโภคทรัพย์และธรรมกายชั้นสูงให้เรียกได้ว่า

ท่านสำเร็จธรรมกายและการลบผงมหาโภคทรัพย์ตามแบบฉบับหลวงพ่อวัดปากน้ำมาเนิ่นนานแล้วก็ว่าได้หลวงปู่ท่านอยู่อุปัฏฐากและร่ำเรียนกับหลวงพ่อสดเป็นเวลายาวนานถึง 29 ปีตั้งแต่อายุ 9 ขวบจนถึงอายุ 31 ปีจนสามารถชักยันต์ลบผงและบรรจุวิชาสำเร็จจึงได้ออกจากวัดปากน้ำไปแสวงหาพุทธาคมเพิ่มเติมโดยสืบสายพระเกจิหลายรูปซึ่งล้วน แต่เป็นญาติผู้ใหญ่ของท่านทั้งสิ้นหลวงปู่ทองพูนท่านยังได้เรียนปริยัติธรรมได้มหาเปรียญธรรมได้ถึงประโยค 5 เป็นผู้รอบรู้ในข้อธรรมะจนแตกฉานที่วัดปากน้ำภาษีเจริญ

2สายเจ้าคุณปู่อินทร์วัดยางเจ้าของวิชากระสุนหลงนะโมหัวช้างไม้สะดวกตาบอดโดยเจ้าคุณปู่อินทร์มีศักดิ์เป็นหลวงลุงของท่าน

3สายหลวงพ่อกุนวัดพระนอนเจ้าของวิชาตะกรุดไมยราพสะกดทัพและวิชาด้านคงกระพันต่างๆจาก 2 ศิษย์เอกของหลวงพ่อกุนคือหลวงพ่อม่วงวัดหนองกาทองกับหลวงปู่โต๊ะวัดเจริญธรรมซึ่งเป็นหลวงน้าของท่านโดยสายนี้ท่านยังได้ศึกษาเพิ่มเติมอีกจากอาจารย์ฆราวาสซึ่งมีศักดิ์เป็นลุงของท่านคือปู่หมอหนูปู่หมอหนูนี้เป็นศิษย์ทั้งหลวงพ่อกุนวัดพระนอนและหลวงพ่อชมวัดดอนกอก

แต่เดิมปู่ท่านเรียนวิชากับหลวงพ่อกุนและช่วยหลวงพ่อกุนเขียนภาพรามเกียรติ์ที่ติดผนังโบสถ์วิหารเขียนไปจนถึงตอนพระลักษณ์ถูกหอกโมกขศักดิ์ปู่จึงเกิดอาการคลุ้มคลั่งเสียสติพูดง่ายๆคือบ้านั่นเองหลวงพ่อกุนรักษายังไง ๆ ก็ไม่หายในที่สุดจึงส่งปู่หมอหนูมาให้หลวงพ่อชมวัดดอนกอกศิษย์ผู้น้องของท่านรักษาต่อปรากฏว่าหลวงพ่อชมรักษาหายเมื่อหายปู่หมอหนูจึงอุปัฏฐากร่ำเรียนวิชาการรักษาและวิชาอื่น ๆ จากหลวงพ่อชมด้วยเรียกได้ว่าหลวงปู่ท่านสืบสายวัดพระนอนตัวจริงในยุคปัจจุบันเลยก็ว่าได้

4สายหลวงพ่ออบวัดถ้ำแก้วเจ้าของวิชาชาตรีตีไม่แตกหลวงปู่ทองพูนเป็นหลานหลวงพ่ออบ

5สายหลวงพ่อทองสุขวัดโตนดหลวงนะปัดตลอดมหาอุตม์คงกระพันจากหลวงพ่อจ่างวัดเขื่อนเพชรลูกผู้พี่ของท่านมาต่อกัน

6สายหลวงพ่อพิมพ์ (มาลัยมาลโย) วัดหุบมะกล่ำเจ้าของวิชาเข็มทองสมัยหลวงพ่อพิมพ์อยู่วัดทับใต้ไต้ฝังเข็มทองให้หลวงปู่ด้วย

7สายหลวงพ่อชมวัดดอนกอกศิษย์ผู้น้องของหลวงพ่อกุนวัดพระนอนเจ้าของลูกสะกดหมากทุยพระปิดตาคลุกรักวิชามหาอุตม์คงกระพันของท่านนักเลงบ้านลาดเชื่อมั่นหลวงพ่อชมมีศักดิ์เป็นหลวงตาของหลวงปู่ทองพูน

8หลวงพ่อผินวัดโพธิ์กรคงกระพันแคล้วคลาดหลวงพ่อผินเป็นเพื่อนสนิทของโยมพ่อหลวงปู่

9สายหลวงพ่อเทพวัดถ้ำรงค์วิชามหาเมตตาเนื่องจากหลวงพ่อเทพเอ็นดูหลวงปู่ทองพูนตั้งแต่เป็นสามเณรติดตามพระครูวิสุทธิเมธีวัดหมูสีซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์บวชเณรครั้งแรกของหลวงปู่และเป็นเจ้าคณะแขวงเดินทางมาแต่งตั้งหลวงพ่อเทพเป็นเจ้าอาวาสวัดถ้ำรงค์

10สายหลวงพ่อเงินวัดดอนยายหอมเจ้าของวิชาโพธิสัตว์บารมีสิบทัศน์สาลิกาลิ้นทองจากหลวงพ่อเวกวัดศาลาหมูสีศิษย์เอกรูปหนึ่งของหลวงพ่อเงินเนื่องจากเมื่ออายุ 8 ขวบโยมย่อพาท่านมาบวชอยู่กับพระพี่ชายที่วัดศาลาหมูสีทำให้ท่านสนิทกับหลวงพ่อเวกซึ่งจำพรรษาอยู่ที่วัดนี้ก่อนที่ปีต่อมาหลวงปู่จะหนีพระพี่ชายไปอยู่วัดปากน้ำและหลวงพ่อสดให้สึกและท่านเป็นพระอุปัชฌาย์บวชให้ใหม่ภายหลังหลวงปู่กลับมาบ้านครั้งใดก็ไปกราบไปนอนกับหลวงพ่อเวกเป็นประจำ

หลวงปู่ทองพูนท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีจิตใจเด็ดเดี่ยวท่านได้พูดกับลูกศิษย์ว่าชีวิตเรานี้ตั้งแต่เกิดไม่เคยขออะไรใครเรานะสมัยก่อนที่เป็นฆราวาสเราเป็นคนที่ไม่ชอบคนอยู่ประเภทหนึ่งคือพวกที่ทำร้ายผู้อื่นเมื่อสมัยก่อนนี้มีพวกอันธพาลที่ชอบฉุดเอาผู้หญิงไปข่มขืนทำร้ายร่างกายพอได้เห็นหรือได้ยินเรื่องนี้ใจเรานี้มันรู้สึกโมโหมากลูกชายไม่สมควรทำเรื่องแบบนี้ผู้หญิงเข าไม่รักก็ไม่ควรจะไปทำร้ายเข าวันหนึ่งก็ไปเจอเหตุการณ์ที่กลุ่มอันธพาลกำลังรุมทำร้ายผู้หญิงแล้วจะเอาผู้หญิงไปข่มขืนเราจึงตั ดสินใจเอาปืนมายิงใส่คนที่กำลังจะข่ ม ขื นผู้หญิงคนนั้นยิ่งไปหนึ่งนัดไปโดนคนหนึ่งในกลุ่มที่กำลังจะข่ ม ขื นไปโดนหัวพอดีต า ยคาที่

นี่เป็นครั้งแรกที่ฆ่ าคนต า ยความรู้สึกในใจตอนนั้นไม่เสียใจเลยที่ฆ่ าคนต า ยเพราะคนที่เราฆ่ านั้นไม่ดีกำลังทำร้ ายคนดีเพื่อเป็นการช่วยคนดีคนหนึ่ง ถ้าต้องฆ่ าคนที่ชั่ วก็ยอมเพราะต้องรั กษาคนดีเอาไว้ไอ้พวกที่คอยสร้างความเดื อดร้อนให้คนอื่นไม่สมควรอยู่ต่อไปถ้าอยู่แล้วคอย แต่สร้างปัญหาไม่ข าดสายชีวิตนี้ตั้งใจว่าจะทำความดีช่วยเหลือคนดีๆตามที่ตั้งใจเอาไว้หลายครั้งที่ดักยิงพวกโจรที่ปล้นฆ่ าชาวบ้านอยู่หลายปีพอถึงวันหนึ่งก็นึกถึงเรื่องบ าปก ร ร มที่ได้เคยฆ่ าคนว่าคงเป็นบ าปก ร ร มจึงได้ตั ดสินใจออกบวชเพื่อชดใช้ก ร ร ม

แหล่งที่มา : sanook.com  เรียบเรียงโดย : เพจธรรมบ้านบ้าน

Facebook Comments Box