1 ความสันโดษในบั้นปลายชีวิต
จำนวนคนรอบตัวเรา จะลดลงตลอดเวลา คนรุ่นพ่อรุ่นแม่ รุ่นปู่ย่าตายายส่วนใหญ่หนีหายกันไปหมดแล้ว -คนที่อยู่ในวัยเดียวกับเราก็จะเริ่มประสบปัญหาในการดูแลตนเอง -คนรุ่นหลัง รุ่นลูกหลานก็กำลังง่วนกับชีวิตการทำงานและความเป็นอยู่ของพวกเขา -คู่ชีวิตของเราเอง ก็อาจจะจากไปก่อนแล้ว เร็วกว่าที่เราคาดไว้ ดังนั้นเราอาจ ถูกทิ้งไว้อยู่กับวันเวลาที่ว่างเปล่าคนเดียวก็เป็นได้ เราจึงต้องเรียนรู้ที่จะอยู่คนเดียวให้ได้ และยอมรับกับความสันโดษในบั้นปลายของชีวิตที่จะต้องเกิดขึ้น
2 สังคมจะเริ่มให้ความสำคัญกับเราน้อยลงไปเรื่อยๆ
ไม่ว่าในอดีตเราจะเคยยิ่งใหญ่หรือมีชื่อเสียงมากขนาดไหนก็ตาม
ความชราจะเปลี่ยนเราให้กลายเป็นเพียงชายแก่ๆหรือหญิงแก่ๆธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น
สปอตไลท์จะหยุดฉายมาที่เรา และเราจะต้องหัดพอใจกับการยืนอยู่ในมุมห้องหรือเงามืดอย่างเงียบๆเพียงคนเดียว
เราต้อง เรียนรู้ที่จะยอมรับและยินดีกับภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้า โดยปราศจากการอิจฉาริษยาหรือคับแค้นใจใดๆทั้งสิ้น
3 ถนนสายเส้นทางชีวิตที่เหลืออยู่จะเต็มไปด้วยอันตรายต่างๆ*
คือ โรคภัยไข้เจ็บ ที่พร้อมจะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เช่นเส้นเลือดตีบตัน หรือแตกหัก สมองฝ่อ หัวใจเต้นผิดจังหวะ ไธรอยด์เป็นพิษ อารมณ์แปรปรวน การหลงลืมหรือมะเร็ง เป็นต้นสิ่งเหล่านี้เราจะต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับความเจ็บป่วย หรือยอมรับมันและดำเนินชีวิตด้วยกุศโลบาย คือ
มีจิตใจและความคิดเป็นบวก
ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เช่น เดินวันละ 30-45นาที เป็นประจำ
ควบคุมการกินอาหารที่ถูกสุขลักษณะ
พักผ่อนให้เพียงพอ
4 เตรียมพร้อมสำหรับการใช้ชีวิตติดเตียง
เราจะถูกดูแลโดยคนอื่นเหมือนเมื่อแรกเกิดแต่สิ่งที่แตกต่างกันคือครั้งนั้นเราเคยมีแม่เป็นผู้ดูแล ด้วยความรักอย่างสุดหัวใจแต่เมื่อใกล้วันที่เราจะจากโลกนี้ไป เราไม่มีแม่เหลืออยู่แล้ว แต่อาจมีญาติที่ใกล้ชิดมาดูแล หรือ อาจมีพยาบาลมาดูแล แต่ต้องยอมรับว่า มันไม่เหมือนกับการดูแลของ แม่ที่ดูแลเราในวัยนอนแบเบาะแน่นอน ดังนั้น จงฝึกอยู่นิ่งๆ อย่าจู้จี้ขี้บ่น อย่าทำตัวให้เป็นที่ลำบากของคนอื่น จงรู้สึกพอใจในสิ่งที่เราได้รับ ได้เป็น
5 ทรัพย์สมบัติ เงินทอง ที่มี หลีกเลี่ยงการนำไปลงทุน หรือ ให้ใครหยิบยืมเด็ดขาด เพราะ เราหมดเวลาแสวงหาเงินทองทรัพย์สมบัติใดๆแล้ว ดังนั้น ผู้สูงวัยทุกคนจงมองชีวิตตามความเป็นจริงของมัน
พอใจในสิ่งที่ได้รับ และยินดีกับสิ่งที่มีอยู่
ใช้ชีวิตให้สนุกขณะที่ยังทำได้
อย่าเอาเรื่องยุ่งเหยิงของสังคม เช่น เรื่องการเมือง หรือ แม้แต่เรื่องของลูกๆหรือหลานๆมาเป็นปัญหาของตนเอง
จงใช้ชีวิตอย่างเจียมเนื้อเจียมตัวและเรียบง่าย
อย่าแสดงตัวว่า เก่งเพราะคิดว่า มีประสบการณ์สูงและผ่าน อะไรๆมามาเมื่ออายุยิ่งมาก เรายิ่งต้องให้ความสำคัญกับการอ่อนน้อมและเคารพให้เกียรติผู้อื่น
ชีวิตคนเรานั้นเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ ควรปล่อยวาง จงใช้ชีวิตที่เหลืออย่างสงบ สุขุม พอเพียงกับการเป็นผู้สูงวัย