หลายคนอยากมีลูกไว้เลี้ยงตัวเอง ยามแก่ชราลง ลองอ่านนิทานเรื่องนี้แล้วคุณอาจจะเปลี่ยนความคิด

หลายคนแต่งงานสร้างครอบครัวเพื่อมีลูกไว้เลี้ยงตัวเอง ย า มแก่ชราลง เราอยากให้ลองอ่านนิทานเรื่องนี้แล้วคุณอาจจะเปลี่ยนความคิด

มีคุณเเม่คนหนึ่งสามีจากไปนานเเล้วเธอสอนหนังสือหาเงินเลี้ยงลูกชายจนโตเขาเป็นคนเชื่อฟังตั้งเเต่ตอนเล็กพอลูกโต เธอก็ส่งลูกไปเรียนต่างประเทศพอลูกเรียนจบก็อยู่ทำงานต่อที่ต่างประเทศทำงานหาเงินซื้อบ้านเเต่งงานมีลูกหนึ่งคน สร้างครอบครัวที่เเสนสุขตัวเธอเองคิดถึงประโยคที่ว่ามีลูกจะได้มีคนเลี้ยงตอนเเก่ คิดถึงสายตาอิจฉาของญาติๆเเละเพื่อนฝูงเธอมีความสุขจากใจ ระหว่างรอจดหมายตอบจากลูกชายเธอก็จัดการเรื่องบ้านเเละงานจนเรียบร้อย

คืนสุดท้ายก่อนเธอจะเกษียณเธอก็ได้รับจดหมายที่ส่งมาจากต่างประเทศของลูกชาย พอเปิดออกดูข้างในก็เป็นเช็คต่างประเทศตีเป็นเงินไทยได้มูลค่าประมาณ1เเสนบาทเธอรู้สึกเเปลกใจมากเพราะลูกชายไม่เคยส่งเงินให้เธอมาก่อนเธอรีบเปิดจดหมายออกอ่าน ในจดหมายเขียนว่า‘เเม่ครับพวกเราได้คุยกันเเล้วตัดสินใจเเละสรุปว่าพวกเราไม่ยินดีให้เเม่มาอยู่ด้วยกันที่นี่ ถ้าเเม่คิดว่าเเม่มีบุญคุณที่เลี้ยงดูผมมาคำนวณตามราคาตลาดก็ประมาณเงินที่ผมส่งให้นี้หวังว่าต่อไปนี้เเม่จะไม่เขียนจดหมายมาอีก’

เเม่อ่านจดหมายฉบับนั้นจบก็น้ำตาไหลพรากรู้สึกว่าตัวเองลำบากเลี้ยงลูกคนเดียวมาตลอดชีวิตจากนี้ไปต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวเธอรู้สึกเเย่มาก จากเเต่ก่อนที่ฝากความหวังทั้งหมดไว้กับลูก เเต่มาตอนนี้กลับไมาเหลืออะไรอีกเเล้วต่อมาเธอก็ศึกษาพระพุทธศาสนาหลังศึกษาเธอก็คิดได้เธอใช้เงินที่ลูกได้มอบให้มาเอาไปเดินทางเที่ยวรอบโลกได้เรียนรู้โลกกว้างได้เห็นสิ่งใหม่ๆมากมาย

หลังจากนั้นเธอจึงเขียนจดหมายหนึ่งฉบับถึงลูกชายในจดหมายว่า ‘ลูกรักลูกไม่อยากให้เเม่เขียนจดหมายมาอีก   ก็ถือซะว่าจดหมายฉบับนี้เป็นข้อความเพิ่มเติมจากฉบับที่เเล้วละกัน   เเม่ได้รับเช็คเเล้วเเละใช้เงินจำนวนนั้นไปเดินทางรอบโลกระหว่างเดินทางท่องเที่ยว

อยู่ๆเเม่ก็รู้สึกว่าเเม่ควรขอบใจลูกขอบใจที่ทำให้เเม่เห็นอะไรทะลุปรุโปร่งปล่อยวาง  ทำให้เเม่ได้เห็นว่าความสัมพันธ์ในครอบครัวเพื่อนเเละคนรักไม่มีรากหยั่งลึกเปลี่ยนเเปลงได้เสมอ ถ้าวันนี้เเม่ยังคิดไม่ตกยังยึดติดยังทุกข์อยู่เเม่คงสิ้นลมหายใจไปภายในปีครึ่งปี  การปฏิเสธของลูกทำให้เเม่ได้เห็นว่าคนเรามีวาสนาก็ได้เจอหมดวาสนาก็จากกัน  ทุกอย่างไม่เที่ยงเเท้

ทำให้เเม่เรียนรู้ที่จะสงบเเละใจเย็นมองทุกอย่างในเชิงบวกเเม่ไม่มีลูกเเล้วไม่มีอะไรให้เป็นห่วงเพราะงั้นเเม่ถึงสามารถอยู่ได้โดยไม่มีมัน‘

‘พ่อเเม่ที่น่าสงสาร’คนเป็นพ่อเเม่อยากมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกเเต่สุดท้ายเเล้วสิ่งที่ได้รับกลับไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุดมีคนกล่าวไว้ว่าบ้านของพ่อเเม่คือบ้านของลูกตลอดเวลาบ้านของลูกไม่เคยเป็นบ้านของพ่อเเม่การให้กำเนิดลูกเป็นงานที่ต้องทำการเลี้ยงดูลูกเป็นภาระหน้าที่การพึ่งพาลูกเป็นความเข้าใจผิด ช่างเป็นเรื่องราวที่ไม่น่าฟังเเต่ก็ไม่ฟังก็ไม่ได้เเม้ว่าไม่ใช่ลูกทุกคนจะเป็นเเบบนี้เเต่คนเป็นพ่อเเม่ไม่ควรคิดว่าเเก่เเล้วจะพึ่งพาลูกพูดกันตามตรงอย่าคาดหวังอะไรจากลูกๆเเม้คุณจะเลี้ยงดูเขามาอย่างดีเเล้วก็ตาม

ต้องฝึกดูเเลตัวเองลูกกตัญญูต่อคุณถือเป็นบุญถ้าลูกกตัญญูไม่พอพ่อเเม่ก็บังคับไม่ได้วิธีที่ดีที่สุดคือวางเเผนชีวิตพึ่งพาตัวเองตอนเเก่ไว้เชื่อว่าคงมีหลายคนเคยได้ยินคนพูดกันว่าหากมีลูกเเก่ตัวมาจะได้มีคนเลี้ยงเเละอีกคำพูดหนึ่งคือ

ถ้าหากไม่มีลูกเเก่มาใครจะเลี้ยงซึ่งความคิดเเบบนี้ถูกส่งต่อสืบทอดกันมาตั้งเเต่โบราณกันเลยทีเดียวเเละในหลายๆคนก็ยังคิดเเบบนี้กันอยู่เสียด้วยเเต่ว่าก็ยังมีคนเเก่ที่ปรับตัวอยู่กับครอบครัวไม่ได้เเล้วคุณล่ะคิดกับเรื่องนี้อย่างไร??

เอาล่ะไม่ต้องตอบเราเเต่คุณลองมาดูเเละให้คำตอบตัวเองซึ่งเรื่องนี้จะช่วยสอนใจได้ไม่น้อยเลยเรื่องมีอยู่ว่ามีคุณเเม่คนหนึ่งที่สามีของเธอเสียไปนานเเล้วเธอทำงานคนเดียวโดยสอนหนังสือหาเงินมาเลี้ยงครอบครัวเลี้ยงลูกชายจนเติบโตมา

เเละเด็กชายก็เป็นคนว่าง่ายเชื่อฟังเเม่ตั้งเเต่เด็กๆเลยพอลูกโตก็ส่งไปเรียนต่ออเมริกาหลังจากเรียนจบเขาก็อยู่ทำงานที่นั่นต่อซื้อบ้านเเต่งงานมีลูก1คนสร้างครอบครัวอบอุ่นเเละมีความสุขเเล้วเเม่เขาก็ตัดสินใจย้ายไปอยู่กับลูกเเละลูกสะใภ้เเละหลาน

ที่อเมริกาในช่วงวัยหลังเกษียณชีวิตบั้นปลายก็มีความสุขดีซึ่ง3เดือนก่อนที่จะเกษียณนั้นก็รีบเขียนจดหมายบอกกับลูกชายซึ่งบอกถึงความปรารถนากับลูกชายว่ามีลูกเอาไว้เลี้ยง ยามเเก่คิดถึงสายตาของญาติพี่น้องเพื่อนๆเพียงเเค่คิดถึงภาพเหล่านั้นว่าทุกคนจะอิจฉาเธอเธอก็มีความสุข เเละจากนั้นส่งไปก็รอจดหมายตอบกลับจากลูกชายซึ่งเธอก็จัดการเรื่องบ้านงานต่างๆเรียบร้อยเเละในคืนสุดท้ายก่อนที่เธอเกษียณนั้นจดหมายจากลูกชายณเเดนไกลก็มาถึงพอเปิดออกมาดูก็เห็นเป็น

เช็คมูลค่า3หมื่นเหรียญดอลล่าห์เธอก็เเปลกใจมากๆเพราะลูกชายไม่เคยส่งเงินให้เธอเลยเเล้วจากนั้นก็ได้เปิดอ่านจดหมายที่มีใจความว่าเเม่ครับเราได้คุยกันเเล้วตัดสินใจเเละได้ข้อสรุปว่าพวกเราไม่ยินดีให้เเม่มาอยู่ด้วยที่อเมริกาถ้าเเม่คิดว่าเเม่มีบุญคุณที่เลี้ยงดูผมคำนวณตามราคาตลาดก็ประมาณ20,000กว่าเหรียญ

ผมก็เลยเพิ่มให้นิดหน่อยเเล้วส่งเช็คให้30,000เหรียญมาให้เเม่นะครับหวังว่าต่อไปนี้เเม่จะไม่เขียนจดหมายหาผมอีก หลังจากอ่านจดหมายจบก็น้ำตาไหลเลยรู้สึกเหมือนต้องเป็นม่ายตลอดชีวิตเเละเธอก็ตัดสินใจศึกษาพระพุทธศาสนาหลังจากนั้นเธอก็คิดได้ว่าเธอใช้เงิน3หมื่นเหรียญไปเที่ยวรอบโลกจะได้เห็นอะไรใหม่ๆเเล้วจากนั้น

ฉะนั้นเเม่ถึงสามารถอยู่ได้โดยไม่มีมันพ่อเเม่ที่น่าสงสารคนเป็นพ่อเเม่อยากมอบสิ่งที่ดีที่สุด ให้กับลูกเเต่สุดท้ายเเล้วสิ่งที่ได้รับกลับมามันไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุดมีคนกล่าวเอาไว้ว่าบ้านของพ่อเเม่คือบ้านของลูกตลอดเวลาบ้านของลูกไม่เคยเป็นบ้านของพ่อเเม่หรอกการให้กำเนิดลูกเป็นงานที่ต้องทำการเลี้ยงดูเป็นภาระหน้าที่การพึ่งพาลูกเป็นความเข้าใจผิด

ช่างเป็นเรื่องราวที่ไม่ค่อยน่าฟังเท่าไหร่เเต่จะไม่ฟังก็ไม่ได้เเม้ว่าไม่ใช่ลูกทุกคนจะเป็นเหมือนลูกชายในเรื่องนี้ที่ไม่มีหัวใจเเต่คนเป็นพ่อเเม่ไม่ควรคิดว่าเเก่เเล้วจะต้องพึ่งพาลูกๆหากจะพูดกันตามตรงเเก่เเล้วก็ต้องดูเเลตัวเองเมื่อลูกกตัญญูต่อคุณเเสดงว่าคุณมีบุญมากหากลูกไม่กตัญญูพอพ่อเเม่ก็ทำอะไรไม่ได้วิธีที่ดีที่สุด

คือการวางเเผนชีวิตตนเองพึ่งพาตนเองให้ได้จากมุมมองของสังคมการมีลูกจะได้มีเลี้ยงตนตอนเเก่ เป็นความปรารถนาของใจเเต่ในปัจจุบันนี้อะไรหลายอย่างมันเปลี่ยนไปเเละยุคนี้ไม่เหมาะที่จะคิดว่ามีลูกเอาไว้เลี้ยงตอนเเก่อีกด้วยหวังว่าเรื่องนี้จะช่วยเตือนสติใครหลายๆคนการไปวางความคาดหวังไว้กับลูกนั้นไม่ใช่สิ่งที่ควรทำเลย

ขนาดคุณยังชอบที่จะเลือกทางเดินให้กับตัวเองเเล้วลูกคุณเขาจะไม่อยากทำบ้างหรือ?? หากคาดหวังมีลูกเอาไว้เลี้ยงตอนเเก่นั้นมันผิดเเละเห็นเเก่ตัวตั้งเเต่คิดเเล้ว เขาควรจะมีชีวิตที่เขาเลือกเองในขณะเดียวกันคุณก็เลือกที่จะใช้ชีวิตในเเบบของตัวเองได้เหมือนกัน

การวางแผนชีวิตนั้นสำคัญมากๆ พึ่งพาตนเองไว้ด้วย หลายคนคิดอยากให้ลูกๆเลี้ยง แต่อาจจะมีอะไรที่ไม่เป็นไปตามที่คิดไว้ เราควรมีแผนสำรอง และคิดเผื่อใจไว้บ้าง ไม่คาดหวังดีที่สุด

ขอบคุณ postsabaidee, bitcoretech

Facebook Comments Box