มะค่าโมงเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางและเป็นไม้เนื้อแข็งที่นิยมนำมาก่อสร้างบ้านเรือนและแปรรูปเป็นเฟอร์นิเจอร์ต่าง อาทิโต๊ะทำงาน โต๊ะรับประทานอาหาร โต๊ะรับแขกและเก้าอี้ เป็นต้น เพราะเนื้อไม้มีความทนทานและมีสีเหลืองอมแดงสวยงาม
มะค่าโมงเป็นพืชเศรษฐกิจอีกชนิดหนึ่งที่น่าสนใจ มีหลายคนอยากปลูกไม้ยืนต้น ไว้เป็นมรดกให้ลูกหลาน

ประโยชน์มะค่าโมง
1ไม้มะค่าโมงเป็นไม้เนื้อแข็ง ไม้มีลวดลายสวยงามมีสีน้ำตาลอมแดง นิยมใช้แปรรูปเป็นไม้แผ่นปูพื้น ไม้วงกบ เสาบ้าน และไม้ชายคาสำหรับก่อสร้างบ้านและเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ

2เปลือกมะค่าโมงมีน้ำฝาด นิยมใช้สำหรับฟอกหนัง
3ฝักอ่อนนำเนื้อเมล็ดมาต้มรับประทาน ทั้งรับประทานเป็นของคบเคี้ยวและรับประทานคู่กับอาหารอื่นๆ

4เมล็ดแก่นำมาเผา ไฟหรือคั่วรับประมาณให้รสมัน

การปลูกเพาะต้นกล้าด้วยเมล็ด
โดยนำฝักแก่มะค่าโมงมาแกะเมล็ดออก จากนำตัดส่วนเยื่อที่หุ้มบริเวณฐานเมล็ดออกและตัดหรือขูดบนพื้นปูนให้เห็นเนื้อเมล็ดด้านในเล็กน้อย
ก่อนจะแช่น้ำไว้ 1 คืน หรือหากไม่ใช้การตัดเยื่อหุ้มออกก็ให้นำเมล็ด มาแช่ในน้ำร้อนประมาณ 1 นาที แล้วทิ้งไว้ให้เย็น จากนั้นนำมาเพาะในถุงเพาะชำ ทั้งนี้วัสดุเพาะชำให้ใช้ดินผสมกับปุ๋ยคอกและทรายเล็กน้อย อัตราส่วนดิน:ทราย:ปุ๋ยคอกที่ 1:2:1
นอกจากนั้น อาจใช้วิธีกลบเมล็ดลงแปลงเพาะและหลังจากนั้นจะเริ่มงอกให้เห็นค่อยย้ายเมล็ดลงถุงเพาะชำและดูแลจนกล้าแข็งแรง ที่อายุประมาณ 8 เดือน ถึง 1 ปี ก่อนนำลงปลูกจะงอกประมาณ 10-20 วัน หลังการเพาะ

การปลูก

การปลูกมะค่าโมง ควรปลูกด้วยต้นกล้าที่มีอายุ 8-12 เดือน และควรปลูกในต้นฤดูฝนเพื่อให้ต้นสามารถเติบโต และตั้งตัวได้ มีระยะปลูกประมาณ 6-8 x 6-8 เมตร และหากเข้าหน้าแล้งควรให้น้ำเป็นระยะ และให้หาฟางข้าวหรือเศษใบไม้มาคลุมไว้รอบโคนต้น ทั้งนี้การเติบโตของลำต้นที่ปลูกแล้ว 1 ปี จะสูงได้ประมาณ 2.5 เมตร และการขยาย ตัวของเส้นรอบวงน้อยกว่า 1 เซนติเมตร/ปี ทั้งนี้ มะค่าโมงจะมีอายุการตัดที่เหมาะสำหรับการก่อสร้างบ้าน ประมาณอายุ 25-30 ปี

ขอบคุณภาพจาก phargarden.com,/ suthorn.com/, http://พะยูง.com/, biogang.net/, http://adeq.or.th/,https://puechkaset.com