เทคนิค “เลี้ยงกุ้งแม่น้ำในบ่อปูน”
กุ้งแม่น้ำไม่จำเป็นต้องอยู่ในแม่น้ำเสมอไป เราสามารถเลี้ยงในบ่อปูนได้ เป็นอีกหนึ่งอาชีพที่น่าลองทำมาก เพราะการเลี้ยงในบ่อปูนนั้นใช้พื้นที่ไม่มาก ลงทุนน้อย แถมยังเลี้ยงง่าย กุ้งแม่น้ำเป็นกุ้งที่มีความต้องการของตลาดสูงมาก ทำให้ราคาค่อยๆขยับขึ้นมาเรื่อยๆ

จากเมื่อก่อน กิโลละ 300-600 บาท มาถึงทุกวันนี้ถ้าตัวใหญ่มากๆสามารถข ายได้ถึงกิโลละ 800 – 1,400 บาท เลยทีเดียว สำหรับใครที่กำลังมองหาลู่ทางรวยที่ทำได้ง่ายๆในพื้นที่จำกัด เราขอแนะนำอีกหนึ่งอาชีพสร้างเงินเป็นกอบเป็นกำ กับเทคนิคการเลี้ยงกุ้ง แม่น้ำตัวยักษ์ บนท่อซีเมนต์

สิ่งที่ต้องมีในการเลี้ยงกุ้งบ่อซีเมนต์
1 บ่อปูนขนาด 3×3 ม. ลึกประมาณ 60 ซม. ส่วนใหญ่ใช้รองซีเมนต์ซื้อจากร้านก่อสร้างเอามาก่อทำบ่อ ในเบื้องต้นแนะนำให้ทดลองทำสัก 1-2 บ่อก่อน
2 เครื่องทำออกซิเจน ราคาประมาณ 500-700 บาท
3 พันธุ์กุ้ง

4 อาหารอนุบาลกุ้ง ทั้งพวกอาหารเม็ด และอาหารสด เช่นไรแดง
5 เกลือแกง สำหรับฆ่าเชื้อในน้ำ
6 ท่อพีวีซี สำหรับการเดินระบบระบายน้ำในบ่อ และอีกส่วนสำหรับให้กุ้งหลบอาศัย
7 วิตามินสำหรับกุ้ง และผงแร่ธาตุ เพื่อช่วยกระตุ้นให้กุ้งโตเร็ว ลอกคราบเร็วขึ้น

เริ่มต้นการเลี้ยงกุ้งในบ่อซีเมนต์
1 เตรียมบ่อโดยนำวงท่อมาต่อท่อระบายน้ำและฉาบปิดพื้นบ่อด้วยปูนซีเมนต์ ตั้งวงบ่อไว้ในที่ร่มให้มีหลังคากันฝน
2 เติมน้ำให้เต็มบ่อ ตรงนี้อาจใส่ต้นกล้วยลงไปแช่ทิ้งไว้ 7-14 วัน เพื่อให้น้ำแช่จากต้นกล้วยล้างความเป็นปูนใหม่ในบ่อปรับสภาพให้ในบ่อเหมาะกับการเลี้ยงกุ้ง หลังจากแช่ครบกำหนด ให้ถ่ายน้ำทิ้งและล้างด้วยน้ำเปล่าอีกหนึ่งรอบ
3 เลือกซื้อพันธุ์กุ้ง ใช้ขนาดประมาณ 4-5 ซม. ซึ่งเทคนิคในการเลือกดูพันธุ์กุ้งที่ว่ายน้ำ ปราดเปรียว แข็งแรง

4 ก่อนใส่พันธุ์กุ้งลงไปให้เติมน้ำลงไปในบ่อให้มีระดับประมาณ 50 ซม. โรยเกลือแกงลงไปอีกเล็กน้อย เป็นการฆ่าเชื้อ
5 เปิดเครื่องให้ออกซิเจน เพิ่มอากาศในน้ำ ประมาณ 2 วันก่อนปล่อยกุ้งลงบ่อ
6 นำท่อพีวีซีตัดเป็นท่อนมาใส่ในบ่อ สำหรับให้กุ้งหลบอาศัย รวมถึงใส่อิฐ หิน ไว้เป็นฐาน หาตะแกรงพลาสติกมาวางด้านบน เพื่อให้เป็นที่กุ้งสำหรับลอกคราบ
7 ขั้นตอนการปล่อยพันธุ์กุ้งลงบ่อควรทำในช่วงเวลาอากาศไม่ร้อนเช่นเช้าหรือเย็น ก่อนปล่อยต้องแช่ถุงพันธุ์กุ้งในน้ำประมาณ 30 นาที ให้อุณหภูมิน้ำในถุงกับในบ่อใกล้เคียงกัน แล้วตักน้ำในบ่อมาผสมทีละน้อยเพื่อป้องกันกุ้งน็อคน้ำ

8 วันแรกที่ปล่อยกุ้งลงบ่อยังไม่ต้องให้อาหารใดๆ แต่ค่อยให้อาหารในวันถัดมา โดยอาจเป็นการให้วิตามินคู่กับอาหารเสริมเพื่อให้กุ้งโตเร็วขึ้น
9 ต้องหมั่นสังเกตน้ำในบ่อควรมีการถ่ายน้ำทิ้งเมื่อสังเกตว่าน้ำเริ่มขุ่น และควรหว่านแร่ธาตุสำหรับกุ้งทุก 7 วันหรือทุกครั้งที่เปลี่ยนน้ำ
10 อย่าพยายามไปส่องดูบ่อยเพราะกุ้งชอบความเป็นส่วนตัวหากรู้สึกว่าถูกรบกวนจะทำให้โตช้า

ข้อแนะนำ
1 ช่วงที่ให้อาหารกุ้งถ้ามีวิตามินหรืออาหารเสริม ก็ใส่คลุกไปกับอาหารกุ้งได้ เพราะจะช่วยให้กุ้งแข็งแรงโตเร็วขึ้น
2 วิธีการเปลี่ยนน้ำ สำหรับใครที่ไม่เข้าใจในระบบน้ำวน ก็ต้องเปลี่ยนน้ำเองอาทิตย์ละครั้งหรือเมื่อเห็นว่าน้ำเริ่มขุ่น
3 ควรหว่านแร่ธาตุสำหรับกุ้งทุก 7 วันหรือทุกครั้งที่เปลี่ยนน้ำในบ่อ
4 น้ำต้องสะอาด อากาศดี อาหารอิ่ม จะช่วยให้กุ้งรอดและโตแน่นอน
5 อย่าพยายามไปกวนไปส่องดูผลงานบ่อย เพราะกุ้งชอบความเป็นส่วนตัวมาก เดี๋ยวจะไม่กินอาหารทำให้โตช้า

5 ต้นทุนเบื้องต้นของการเลี้ยงขึ้นอยู่กับปริมาณบ่อหากเป็นกุ้งก้ามกราม ต้นทุนอาหารประมาณ 300 บาท/ ตร.ม. ระยะเวลาในการเลี้ยงประมาณ 5-6 เดือน จะเริ่มจับข ายได้ ตัวอย่างของเกษตรกรบางรายที่ทดลองเลี้ยง 5 บ่อ
สามารถจับข ายได้ในเวลา 6 เดือน มีรายได้รวมกว่า 50,000 บาท โดยราคาข ายเป็นไปตามขนาดหากส่งจากหน้าบ่อมีคนมารับซื้อราคาประมาณ 600-750 บาท ซึ่งพอไปถึงร้านอาหารราคาข ายลูกค้าในร้านอาจกระโดดไปถึงกิโลกรัมละ 800-1,400 บาท เลยทีเดียว

สำหรับยุคสมัยนี้เรามีการพัฒนาเรื่องอาหารการกิน และ การเลี้ยงสัตว์ต่างๆมากมายรวมไปถึงกุ้งแม่น้ำด้วย ซึ่งกุ้งแม่น้ำนั้นไม่จำเป็นต้องอยู่ในแม่น้ำเสมอไป เราสามารถเลี้ยงในบ่อปูนได้

เริ่มต้นจากการเตรียมบ่อ โดยนำวงบ่อซีเมนต์มา ต่อท่อระบายน้ำ และ ฉาบปิดพื้นบ่อด้วยปูน ( ตั้งบ่อไว้ในที่ร้มให้มีหลังคากันฝน )เติมน้ำให้เต็มบ่อใส่ต้นกล้วยลงไป แช่ทิ้งไว้ 7-14 วัน
( เคล็ดลับ ต้นกล้วยช่วยชำระล้างบ่อปูนที่ทำใหม่ ซึ่งอาจมีสารเคมีตกค้างอยู่ น้ำแช่ต้นกล้วยจะช่วยชำระล้างผิวบ่อให้เหมาะกับเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ) หลังจากแช่ไปได้ตามกำหนดแล้วให้ถ่ายน้ำนี้ทิ้ง และ ล้างด้วยน้ำเปล่าอีกรอบ

การเลื้อกซื้อพันธุ์ ให้ใช้ลูกกุ้งขนาดประมาณ 4-5 ซม. พันธุ์กุ้งที่ดีควรมีการว่ายน้ำ ปราดเปรียว แข็งแรง สาเหตุที่ใช้ตัวประมาณนี้เพราะ มีอัตราการรอดที่สูงกว่า ถ้าขนาดเล็กกว่านี้อัตราการรอดจะน้อย
ขั้นตอนการเตรียมน้ำในบ่อสำหรับเลี้ยงกุ้ง ให้เติมน้ำลงไปในบ่อลึกประมาณ 50 โรยเกลือแกงลงไปในบ่อเล็กน้อย เป็นการกำจัดเชื้อโรคเปิดเครื่องให้ออกซิเจน เพื่อเพิ่มอากาศในน้ำ ทิ้งน้ำไว้ 2 วันก่อนปล่อยกุ้งลงบ่อ
นำท่อ PVC มาใส่ไว้ในบ่อให้กุ้งได้อยู่พักอาศัย และ ไว้สำหรับให้กุ้งหลบ และใส่อิฐและหินไว้เป็นฐานหาตะแกรงพลสาติกมาวางไว้ด้านบน ไว้เป็นที่สำหรับให้กุ้งขึ้นมาลอกคราบ

เมื่อเตรียมน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้วก็พร้อมปล่อยกุ้งลงบ่อ การปล่อยกุ้งลงบ่อนิยมทำตอนที่สภาพอากาศไม่ร้อนเกินไป เช่น ช่วงเช้า หรือ ช่วงเย็น โดยนำพันธุ์กุ้งมาแช่ลงน้ำทั้งถุง ประมาณ 30 นาที
ให้อุณหภูมิน้ำในถุงกับในบ่อใกล้เคียงกัน เพื่อไม่ให้กุ้งน๊อคตอนปล่อยลงบ่อ จากนั้นตักน้ำในบ่อมาผสมทีละน้อยแล้วค่อยปล่อยกุ้งลงบ่อ

ในวันแรกที่ปล่อยอย่าเพิ่งให้อาหารกุ้ง ค่อยให้ในวันถัดมา หลังจากเลี้ยงกุ้งก้ามกรามได้ประมาณ 4-6 เดือน ก็จะมีขนาดตัวที่ใหญ่พอที่จะสามารถจับข ายได้ แล้วแต่ขนาดและความต้องการของตลาด หากอยากข ายได้ราคาก็ต้องเลี้ยงต่อไปอีกเพื่อให้ได้ขนาดตัวที่ใหญ่ขึ้น

สำหรับราคาข ายขึ้นอยู่กับขนาดตัว หากข ายส่งอาจได้ราคาไม่สูง ( ประมาณ 150-450 บาท/กิโลกรัม ) แต่หากนำมาแปรรูปเปิดเป็นร้านอาหารทำกุ้งเผาสามารถข ายได้ตั้งแต่กิโลกรัมละ 400 – 1,400 บาท
การเลี้ยงกุ้งแม่น้ำนั้นอาจจะใช้เวลานานหลายเดือนกว่าจะเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ในแต่ละรอบ และ ตัวผู้เลี้ยงต้องมีประสบการณ์ในการเลี้ยงมากพอสมควร
ดังนั้นหากจะเริ่มต้นเลี้ยง ควรศึกษาหาข้อมูลให้ดีก่อน หากแต่ว่าถ้าเราเลี้ยงไว้ในปริมาณที่มากพอสมควรและมีตลาดรองรับแล้ว ให้เพียงพอต่อระยะเวลารอบการเก็บเกี่ยว ก็สามารถสร้างรายได้ประจำเป็นอาชีพที่มั่นคงแน่นอน