ลงทุน 500 ได้ปุ๋ยเท่ากับ 10 กระสอบ สูตรทำ “จุลินทรีย์สังเคราะห์แสง”
จุลินทรีย์สังเคราะห์แสงคือ สิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก พบได้ตามแหล่งน้ำตามธรรมชาติ และ ในดินทั่วๆไป ตัวมันเองทำหน้าที่นำก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในดินและน้ำมาใช้ และ สามารถย่อยสลายอินทรีย์วัตถุให้มีขนาดเล็กลง เร่งปฎิกิริยาการเกิดปุ๋ย

ด้วยความสามารถตรงนี้เองทำให้เรานำประโยชน์ของจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง ตรงส่วนนี้มาช่วยในเรื่องของการเกษตรได้ ทีนี้ถ้าเราเติมหัวเชื้อจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงเข้าไปในดินเพิ่มขึ้นก็จะไปเร่งปฎิกิริยาพวกนี้ให้มากขึ้น
ทำให้ต้นไม้ดูดซึมปุ๋ยได้มากขึ้นลดปริมาณการใช้ปุ๋ยลง ในขณะเดียวกันต้นไม้ก็เจริญเติบโตมากขึ้นด้วย ช่วยประหยัดค่าปุ๋ยบำรุงต้นไม้ไปได้มากเลยทีเดียว
อุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการทำจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง
ผงชูรส 1 กิโลกรัม ( ยี่ห้ออะไรก็ได้เอาที่ราคาถูกๆ ) ราคาประมาณ 100 บ าท
น้ำปลาขวดใหญ่ 3 ขวด ( ยี่ห้ออะไรก็ได้เอาที่ราคาถูกๆ ) ราคาประมาณ 75 บ าท
กะปิ 2 กระปุกเล็ก 40 บ าท
ไข่ไก่ 3 แผง ประมาณ 300 บ าท
รวมแล้วประมาณ 500 บาท ส่วนผสมทั้งหมดนี้สามารถทำจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงได้ในปริมาณที่ ช่วยประหยัดค่าปุ๋ยลงไปได้ประมาณ 10 กระสอบ เลยทีเดียว ต่อไปเราจะมาเริ่มวิธีทำกัน ซึ่งการทำนั้นก็ไม่ย าก

ขั้นตอนวิธีทำจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง
1 ตอกไข่ลงไป 2 ฟอง ตีให้ไข่ขาวกับไข่แดงเข้ากัน
2 ใส่ผงชูรสครึ่งช้อนโต๊ะ น้ำปลา 4 ช้อนโต๊ะ กะปิครึ่งช้อนโต๊ะ ( กะปิเป็นตัวช่วยเร่งให้ จุลินทรีย์สังเคราะห์แสงติดแดงได้ง่ายขึ้น )
3 คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันแล้วตักใส่ขวดน้ำ ( อัตราส่วน 3 ช้อนโต๊ะ ต่อ น้ำขวด 1.5 ลิตร 1 ขวด )

4 ใส่น้ำเปล่าตามลงไปจนเต็ม เขย่าให้เข้ากัน แล้วนำไปตากแดดทิ้งไว้ประมาณ 5-7 วัน
5 หลังจากนั้นก็จะเริ่มเป็นสีแดง แสดงว่าตัวจุลินทรีย์สังเคราห์แสงนั้นเจริญเติบโตจนเต็มขวดแล้ว อย่างที่กล้าวเอาไว้ในข้างต้นว่า จุลินทรีย์สังเคราห์แสงนั้นเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่อาศัยอยู่ตามแหล่งน้ำธรรมชาติ
และ ในดิน เราแค่นำเอามาเพาะเลี้ยงด้วย กระปิ น้ำปลา ผงชูรส ไข่ไก่ ซึ่งเหล่านี้ล้วนเป็นอาหารที่เหมาะสำหรับการเจริญเติบโตของตัวจุลินทรีย์

ส่วนที่ในขวดเป็นสีแดงนั้นเป็นสัญญานบ่งบอกว่า น้ำในขวดเต็มไปด้วยหัวเชื้อจุลินทรีย์สังเคราห์แสง ซึ่งพร้อมสำหรับการนำไปใช้งานต่อไป เคล็ดลับที่ทำให้จุลินทรีย์สังเคราห์แสงติดแดง 100% หากใช้น้ำประปา จะออกเป็นสีเขียว สีขวา หรือ แดงไม่เต็มที่
หากใช้น้ำ บึง สระ ( โดยเฉพาะน้ำจากบ่อเลี้ยงปลา ) จะได้ผลดีมาก แดงภายใน 5-7 วัน น้ำบาดาล จะติดแดงบ้าง ขาวบ้าง ขึ้นอยู่กับสารเจอปนในแหล่งน้ำ

อ้างอิงจากข้อมูลของ อาจารย์ มนตรี นักระนาด ที่ท่านทดลองทำมาแล้วหลายครั้งแล้วได้ผลดังกล่าว ทำให้ทางแอดมินสรุปได้ว่า น้ำที่ใช้ได้ดีที่สุดควรเป็นน้ำจากจากบ่อเลี้ยงปลา อาจเพราะมีจุลินทรีย์สังเคราห์แสงอาศัยอยู่ในแหล่งน้ำอยู่เยอะ
เพราะได้มูลปลาและอินทรีย์วัตถุต่างๆที่ปลาหากินในบ่อเป็นอาหารเลี้ยงอยู่แล้ว ทำให้จุลินทรีย์สังเคราห์แสงที่อยู่ในแหล่งน้ำเหล่านี้แข็งแรง และ มีการเจริญเติบโตดี
เวลานำน้ำจากแหล่งน้ำเหล่านี้มาเพาะจุลินทรีย์สังเคราห์แสง จึงทำให้เจริญเติบโตได้เร็วและติดได้ง่ายกว่าจากแหล่งน้ำอื่น

วิธีนำไปใช้
จุลินทรีย์สังเคราะห์แสง 100 ซีซี / น้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นที่ใบ ทุกๆ 7 วัน
จุลินทรีย์สังเคราะห์แสง 100 ซีซี / น้ำ 10 ลิตร ฉีดพ่นลงดิน ทุกๆ 7 วัน
ข้อดีของการใช้จุลินทรีย์สังเคราะห์แสงกับพืช
จุลินทรีย์สังเคราะห์แสง เป็นแหล่งรวมแร่ธาตุ และ สารอาหารต่างๆที่มีประโยชน์ใต่อการเจริญเติบโตของพืช
จุลินทรีย์สังเคราะห์แสง เป็นตัวช่วยเร่งปฎิกิริยาในการย่อยสลาย ทำให้เกิดปุ๋ยในดินเยอะขึ้น ช่วยให้พืชได้รับปุ๋ยมากขึ้น

จุลินทรีย์สังเคราะห์แสง ช่วยในการตรึงในโตรเจน ใช้งานร่วมกับปุ๋ย ทำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดต้นทุนการใช้ปุ๋ยลง 30 – 50 % เป็นจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดกระบวนการรีไซเคิล คาร์บอน และ สารจำพวกซัลเฟอร์ ซึ่งจำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตของต้นไม้
ทำให้รากของพืชแข็งแรงสามารถหาอาหารได้เก่งสามารถดูดซึมสารอาหารได้มากขึ้น จุลินทรีย์สังเคราะห์แสง ยังมีโปรตีนสูงและวิตามินแร่ธาตุมากมาย พืชมีความแข็งแรงต้านทานโรคและแมลงต่างๆได้ดี ฉีดพ่นในคอกสัตว์ช่วยลดกลิ่นเหม็นของมูล
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก : อาจารย์ มนตรี นักระนาด , เกษตรพอเพียง เรียบเรียงโดยเพจ 1 ไร่ไม่จน