น่าอ่าน

พื้นที่น้อยก็ปลูกได้ ฟักทองบัตเตอร์นัท ปลูกในกระถาง

กลับมาพบเจอกันอีกแล้ว ก่อนอื่นแอดมินและทีมงานเพจเกษตรกับธรรมะ ก็ขอขอบคุณที่ท่านผู้อ่านยังคงติดตามผลงานของเรามาตลอด เราจะคอยสรรหานำเสนอเรื่องราวดีๆ ให้ความใจโลงใจและมีประโยชน์แก่แฟนเพจทั้งหลายให้ท่านได้อ่านเรื่อยๆนะคะ ก่อนที่เราจะไปอ่านเรื่องราวในวันนี้  แอดมินและทางทีมงานขออวยพรให้ท่านแฟนเพจมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง มีแต่สิ่งดีๆเข้ามาในชีวิตด้วยนะคะ

การปลูกผักไว้ทานหลังบ้านเป็นหนึ่งในวิธีการเลือกบริโภคอาหารจากแหล่งที่ปลอดภั ยไว้ใจได้ใครๆ ก็ทราบ แต่สำหรับหลาย ๆ คน การปลูกพืชผักสวนครัวไว้หลังบ้านนั้น อาจจะกลายเป็นแค่ความฝัน เพราะพื้นที่ของที่อยู่อาศัยไม่เอื้ออำนวยต่อการทำแปลงปลูกที่ดูจริงจัง ไม่มีพื้นที่รอบบ้านมากมายแบบบ้านเดี่ยว วันนี้บ้านและสวนมีทางออกดี ๆ สำหรับคนที่มีพื้นที่น้อย ปลูกง่าย ใช้พื้นที่ไม่มาก เก็บผลผลิตทานได้ตลอดทั้งปี ด้วยพื้นที่เพียง 10 ตารางนิ้ว

ผักที่บ้านและสวนจะมาแนะนำการปลูกวันนี้นั่นก็คือ ฟักทองบัตเตอร์นัท “ซันไลท์” ทางเลือกใหม่ของผักที่อุดมไปด้วยประโยชน์นานาชนิด ทั้งวิตามินเอ , สารต้านอนุมูลอิสระ มีส่วนช่วยฟื้นฟูสภาพผิว ลดรอยเหี่ ยวย่น แถมยังปลูกง่าย ติดผลตลอดทั้งปี นำมาปรุงอาหารก็ง่ายไม่ยุ่งยาก รสชาติอร่อย เก็บเกี่ยวแล้วเก็บไว้ได้นานโดยไม่เสี ยรสชาติ ฟังดูง่ายขนาดนี้ ตามมาดูขั้นตอนการปลูกทีละสเต็ปกันเลยค่ะ

ขั้นตอนการปลูกฟักทองบัตเตอร์นัท “ซันไลท์”

การเตรียมดินเพาะเ ม ล็ ด ใส่พีทมอสลงในถาดเพาะ โดยให้มีให้พีทมอสต่ำกว่าขอบถาดเพาะประมาณ 1 เซนติเมตร เหตุผลที่ใช้พีทมอสแทนวัสดุปลูกชนิดอื่น ๆ เพราะพีทมอสมีแร่ธาตุที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโต และของเ ม ล็ ดพั น ธุ์ ทำให้ช่วงระยะแรกเมล็ดเติบโตท่ามกลางแหล่งอาหารที่ดีและเหมาะสม

หยอดเ ม ล็ ดลงหลุม หยอดเ ม ล็ ดพั น ธุ์ฟักทองบัตเตอร์นัท “ซันไลท์” ลงถาดเพาะ โดยนำส่วนแหลมปักลงไปในพีทมอส หยอดลึกลงไปประมาณ 1 – 2 เท่าของความสูงเ ม ล็ ดพั น ธุ์ หยอดแค่หลุมละ 1 – 2 เมล็ดก็เพียงพอค่ะ จากนั้นโรยพีทมอสกลบหน้าหลุมบาง ๆ สเปรย์น้ำให้ทั่วทั้งถาดเพาะเมล็ด พอให้พีทมอสชุ่ม

หลังจากหยอดเ ม ล็ ดลงหลุม 8 – 10 วันก็สามารถย้ายต้นอ่อนลงกระถางปลูกได้

ผสมดินสำหรับปลูก

ผสมดินสำหรับใช้ในการปลูกต้นกล้า โดยใช้ดินร่วน 1 ส่วน , ขุยมะพร้าวสับ 1 ส่วน , ใบก้ามปูแห้ง 1 ส่วน และปุ๋ยหมัก 1 ส่วน

ผสมส่วนผสมดินปลูกทั้งหมดเข้าด้วยกัน นำดินที่ผสมเรียบร้อยแล้วใส่กระถางขนาด 10 นิ้ว รองก้นกระถางด้วยปุ๋ยหมัก หรือปุ๋ยมูลไส้เดือน จากนั้นใส่ดินที่ผสมลงในกระถาง ให้ต่ำกว่าขอบกระถางประมาณ 2 เซนติเมตร

ย้ายต้นกล้าลงกระถางปลูก

ขุดหลุมเป็นแนวในการวางต้นกล้าด้วยช้อนปลูกให้ขนาดหลุมใหญ่กว่าขนาดตุ้มดินของต้นกล้าประมาณ 2 เซนติเมตร จากนั้นใช้ช้อนปลูกค่อย ๆ ตักต้นกล้าออกจากถาดเพาะ แล้ววางลงหลุมที่ขุดเตรียมไว้เมื่อซักครู่อย่างเบามือ กลบดินรอบ ๆ โคนต้นแล้วออกแรงกดเบา ๆ ให้ใบล่างสุดของต้นกล้าโผล่พ้นดินขึ้นมา

กระถางปลูก 1 ใบ สามารถปลูกต้นกล้าได้ถึง 3 ต้น เมื่อย้ายทั้ง 3 ต้นลงกระถางเป็นที่เรียบร้อยแล้วให้รดน้ำให้ชุ่ม สังเกตได้จากน้ำที่ไหลซึมออกมาที่บริเวณก้นกระถางถือว่าเพียงพอ จากนั้นนำกระถางปลูกไปวางไว้ในพื้นที่ที่มีแสงเข้าถึง เมื่อต้นกล้าเริ่มยืด ให้นำไม้ไผ่มาทำเป็นค้างเพื่อให้ลำต้นเลื้อยขึ้น

วิธีการใส่ปุ๋ย

เมื่อต้นกล้าอายุได้ 21 วัน ให้ใส่ปุ๋ยยูเรียขนาด 10 กรัม , เมื่อต้นกล้าอายุ 28 วัน ให้ใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 อีก 15 กรัม , เมื่อต้นกล้าอายุ 35 วัน ใส่ปุ๋ยยูเรียเพิ่มอีก 10 กรัม และเมื่อต้นกล้าอายุได้ 42 วันให้ใส่ปุ๋ยสูตร 0-0-60 อีก 10 กรัม หมั่นดูแลความชุ่มชื้นภายในดินให้เพียงพอ

การเก็บเกี่ยว

เมื่อมีอายุ 75 วัน ก็สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ โดยสามารถปลูกและเก็บเกี่ยวได้ตลอดทั้งปี แม้ปลูกในกระถางก็ยังติดผลดก ลักษณะผิวของฟักทองบัตเตอร์นัทค่อนข้างเรียบ ลื่น สีครีมนวล เ นื้ อหนา สีเหลืองทอง น้ำหนักของผลเฉลี่ยอยู่ที่ 0.6  0.8 กิโลกรัม รสชาติหวาน มัน สามารถเก็บไว้ได้นานโดยสีและรสชาติไม่เปลี่ยนแปลง

ผลของฟักทองบัตเตอร์นัท “ซันไลท์” สามารถรับประทานได้ทั้งเปลือก และยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ อุดมไปด้วยวิตามินเอ ช่วยบำรุงสายตา ทำให้ผิวพรรณดี ช่วยฟื้นฟูสภาพผิว ลดรอยเหี่ ยวย่น สามารถนำมาประกอบได้ทั้งอาหารคาวและอาหารหวาน อีกหนึ่งพืชทางเลือกที่สามารถปลูกได้ง่ายๆ ในกระถาง

แหล่งที่มา baanlaesuan.com เรียบเรียงโดย เพจเกษตรกับธรรมะ

Facebook Comments Box
สวัสดี