“ทำนาผักบุ้งน้ำ” สร้างร ายได้ดีกว่าทำนาปลูกข้าว
“ผักบุ้ง” จัดอยู่ในกลุ่มผักสดข ายดีตลอดทั้งปี เพราะผักบุ้งนำไปปรุงอาหารได้หลากหลายชนิด แถมผักบุ้งอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุสำคัญมากมายที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ผักบุ้ง เป็นพืชที่ปลูกดูแลง่าย ผักบุ้งมักเติบโตอยู่เหนือน้ำ หรือในที่ที่มีความแฉะ เพราะผักบุ้งเป็นพืชที่ชอบน้ำมากเป็นพิเศษ ถ้าหากขาดน้ำ จะสร้างความเสียหายให้กับวงจรของผักบุ้งเลยก็ว่าได้
ผักบุ้ง เป็นผักที่นิยมทานในประเทศไทย เป็นผักที่มีอยู่ในธรรมชาติทุกพื้นภาคของประเทศไทย ชาวบ้านต่างจังหวัดสามารถหาผักบุ้งทานได้ง่าย ตามท้องไร่ ท้องนา แต่ถ้าอยู่ในเมืองจะหามารับประทานจะต้องซื้อเอาซะสวนมาก วันนี้เกษตร นานา จะมาแนะนำอาชีพที่น่าสนใจนี้ คือการทำนาผักบุ้ง

โดยทั่วไปผักบุ้งชนิดนี้จะปลูกได้ 2 แบบ คือ
1 ปลูกในนา
2 ปลูกในคลอง
แบบที่ 1 การปลูกผักบุ้งในนา
ทำแบบเดียวกับการทำนาข้าว แบบดำนา คือ ไถและคาดให้ดินเป็นโคลน
–ปล่อยน้ำเข้านาให้มีระดับน้ำประมาณ ครึ่งแข้ง
–นำยอดผักบุ้ง ยาว 50 เซนติเมตร มาปักดำ
–ระยะห่างต้องเป็น 4 เหลี่ยมจัตุรัส เช่น 1×1 เมตร (กว้างxยาว) เป็นต้น พื้นที่ 1 ไร่ ใช้ยอดผักบุ้ง 1,600 ยอด หรือปลูกได้ 1,600 ขุม ประมาณ 10 วัน ผักบุ้งก็ลงรากบักเนื้อดิน เกษตรกรควรตั ดยอด
จะช่วยให้ผักบุ้งแตกยอดแตกกอมากขึ้น หากมีการเสริมด้วยน้ำปุ๋ยหมักชีวภาพ โดยฉีดพ่นทุก 5 วัน เพียง 1 เดือนก็สามารถเก็บเกี่ยวสร้างเงินได้แล้ว

แบบที่ 2 การปลูกในคูคลอง
วิธีนี้ง่ายมาก เพียงเกษตรกรกำจัดวัชพืชในคูคลองออกให้หมด นำผักบุ้งที่มีความยาวประมาณ 1 เมตร มัดหลวมๆ มัดละ 6-8 ยอด หาไม้ไผ่หรือไม่ที่คงทน และตรงพอสมควร ปักกลางลำน้ำให้ห่างกัน 4 4 เมตร
นำผักบุ้งไปผูกไว้กับไม้หลัก ทำการตั
ดยอดผักบุ้งออกทั้งหมด เพื่อให้ผักบุ้งแตกยอดมากขึ้น หมั่นฉีดพ่นปุ๋ยหมักน้ำทุก 5 วัน ประมาณ 1 เดือนก็สามารถเก็บ ยอดผักบุ้งข ายได้แล้ว

การดูแลเพิ่มผลผลิต
น้ำหมักชีวภาพ คือ น้ำหมักจากยอดผักบุ้งและหยวกกล้วย ในอัตรา 3:2 คือ ยอดผักบุ้ง 2 กิโลกรัม หยวกอ่อน 3 กิโลกรัม หมักกับกากน้ำตาล 2 กิโลกรัม ทิ้งไว้ประมาณ 1 เดือน
เมื่อได้น้ำหมักครบ 1 เดือนแล้ว ขั้นต่อไปก็เพียงแค่นำไปผสมน้ำ 3 ช้อนแกงต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นทางใบ จะเกิดการเร่งยอด ทำให้ผักบุ้งแตกยอดเร็วขึ้นเป็น 2 เท่าของปกติ
ระดับน้ำลึก น้ำไม่ร้อน ยอดผักบุ้งจะอวบขาวสวยน่ารับประทาน ไม่ดีคือ อาจมีเต่ากัดกิน มัน ก็ต้องระวัง แต่มันมีเพียงบางพื้นที่เท่านั้น การเก็บเกี่ยวก็แบบวันเว้นวันเหมือนผักบุ้งในนา เก็บได้ทั้งเดือนทั้งปี
และหลายหลายๆ ปี โดยไม่มีต้นทุนเพิ่ม มีร ายได้แบบเย็นๆ สบายๆ หากมีพื้นที่ในคลอง 4 ไร่ ก็จะมีร ายได้ไม่น้อยกว่า 18,000 บาทต่อเดือนถือเป็นอาชีพที่น่าสนใจมากๆครับ

เกษตรกรจะต้องเก็บเกี่ยวแบบวันเว้นวัน พื้นที่ 1 ไร่ หากเก็บเกี่ยวหมดทั้งแปลงจะได้ประมาณ 100 กำ เป็นอย่างน้อย ข ายส่งกำละ 3 บาท ข ายปลีก 5 บาท (ข้อมูลปี 2562 เดือน กันายน) ก็จะมีร ายได้ 300 บาทต่อการเก็บเกี่ยว 1 ครั้ง
เดือนหนึ่ง เก็บเกี่ยว 15 ครั้ง ก็ 15x 300 ก็จะมีร ายได้แล้ว 4,500 บาท ต่อไร่ต่อเดือน หากปลูกผักบุ้ง 4 ไร่ ก็จะมีร ายได้เดือนละ 18,000 บาท ต่อเดือน ปีละ 216,000 บาท เป็นร ายได้แบบเย็นๆ น่าสนใจนะครับ
การทำนาผักบุ้งถือเป็นร ายได้หลักของครอบครัว “คุณสุภาวดี แตงสุข” เจ้าของแปลงนาผักบุ้งน้ำ ที่ตำบลทวีวัฒนา อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี ที่ทำนาผักบุ้งสืบต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น คุณสุภาวดีเองทำนาผักบุ้งมาประมาณ 30 ปีแล้ว
เพราะการทำนาผักบุ้ง ปลูกดูแลง่าย ไม่ต้องลงทุนเสียค่าเมล็ดพันธุ์ เพราะสามารถนำตันเก่าของผักบุ้งมาทำพันธุ์เพื่อใช้ได้ต่อเลย ช่วยลดต้นทุนการผลิตได้ ผักบุ้งน้ำดูแลง่ายกว่าการปลูกผักบุ้งจีน ที่ต้องใช้คนงานเยอะ

ผักบุ้งน้ำ ปลูกคล้ายแปลงทำนาคุณสุภาวดี จะใช้วิธีปลูกผักบุ้งน้ำ คล้ายกับการทำนาข้าว เริ่มจากขั้นตอนการเตรียมดินจะใช้แรงงานคนย่ำให้จม หากเป็นนาเก่าหรือนาที่มีผักค้างอยู่ในแปลงต้องย่ำให้หนักๆ
เพื่อให้เกิดดินดำผุดขึ้นมา หลังจากนั้นจึงค่อยนำพันธุ์ผักบุ้งที่เป็นยอดๆ จะใช้ประมาณ 3-4 ยอด มาปักหรือดำเหมือนกับการดำนาข้าวแบบทั่วไป แล้วจัดให้ผักบุ้งที่ดำลงไปให้นอนราบ
แล้วก็จัดทำเช่นนี้เรียงต่อไปเรื่อยๆ จนสุดแปลง โดยระยะความห่างของแถวจะอยู่ที่ประมาณ 5 ศอก โดยแปลงแห่งนี้จะใช้เวลาในการเพาะปลูกที่ 2 เดือน ก่อนที่จะย่ำทิ้งเพื่อปรับแปลงนาใหม่

หลังปลูกประมาณ 3 สัปดาห์ ต้นผักบุ้งน้ำที่เพาะก็จะแตกยอดออกมาอย่างรวดเร็ว เพราะมีการดูแลบำรุงใส่ปุ๋ยในแปลงปลูกอย่างสม่ำเสมอ โดยเลือกใช้ปุ๋ยที่ต้องการ เช่น สูตรปุ๋ยบำรุงยอด บำรุงใบ
หรือว่าบำรุงลำต้น เกษตรกรส่วนใหญ่นิยมให้ปุ๋ยเม็ด สูตร 25-7-7 โดยแบกถังใส่ปุ๋ยไปหว่านใส่กอผักบุ้งที่ปลูก เฉลี่ยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ประมาณ 50 กิโลกรัม ต่อ 3 ไร่ จะช่วยให้ใบผักบุ้งเติบโตอย่างสวยงาม
“น้ำในคันนาผักบุ้ง” เป็นปัจจัยสำคัญอีกอย่างที่ไม่ควรมองข้าม เพราะน้ำที่จะเลี้ยงผักบุ้งได้ ต้องมีความลึกประมาณ 50 เซนติเมตร ต้องระวังอย่าให้น้ำแห้งจนเกินไป
ควรปล่อยน้ำลงแปลงนาผักบุ้งหากพบว่าพื้นนาเริ่มแห้ง 7 วัน หลังจากที่ปล่อยน้ำไปแล้ว เมื่อผักบุ้งเติบโตงอกงาม ก็ควรรีบตั ดทันที ไม่อย่างนั้นขี้ตะไคร่ที่เกิดขึ้นจะมาเกาะได้ จะทำให้ต้นผักบุ้งไม่สวย ข ายไม่ได้ราคา

ระยะเวลา 2 เดือน คือช่วงเวลาที่ดีในการเก็บผักบุ้ง เพราะในช่วงนี้จะเป็นช่วงเวลาที่ยอดผักบุ้งยาวและสวยงาม ยอดผักบุ้งของคุณสุภาวดีที่ได้จะมีความยาวอยู่ที่ ประมาณ 30 เซนติเมตร
ระวังศัตรูพืชตัวฉกาจ“แมลงศัตรูพืช” ประเภทหนอน แมลง เพลี้ย ไรแดง เป็นศัตรูตัวร้ ายของผักบุ้งน้ำ ต้องหมั่นสังเกต หากพบในแปลงนาผักบุ้ง ต้องรีบกำจัดทันที
เนื่องจากอาชีพปลูกผักบุ้งน้ำ เป็นงานที่ต้องทำในน้ำตลอดเวลา จึงต้องเฝ้าระวังตัวเองด้วย ทุกครั้งที่ขึ้นจากน้ำ ควรใช้ครีมอาบน้ำที่มีสารป้องกันหรือฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ในการชำระล้างร่างกายในทุกๆ ส่วน

ผักบุ้ง ข ายดีตลอดทั้งปีด้านตลาด คุณสุภาวดี จะนำผักบุ้งที่ตั ดจากแปลงมามัดรวมกัน เป็น 1 มัด น้ำหนักประมาณ 5 ก.ก. ส่งข ายตลาดสี่มุมเมือง อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี ในราคาส่งอยู่ที่ มัดละ 30-35 บาท ช่วงฤดูหนาว ผักบุ้งข ายได้ราคาดี มัดละ 50-60 บาท เลยทีเดียว
คำแนะนำสำหรับเกษตรกรมือใหม่ ทุกจังหวัดสามารถปลูกผักบุ้งในแหล่งน้ำจืดได้เหมือนกัน ไม่ควรปลูกในพื้นที่น้ำกร่อยอย่างสมุทรปราการ เพราะผักบุ้งไม่ชอบน้ำกร่อย ความจริงก็ปลูกได้ แต่ยอดผักบุ้งจะเล็ก ไม่ตรงกับความต้องการของตลาด

หากใครคิดจะปลูกผักปลูกเป็นอาชีพ ก็ไม่น่าห่วง เพราะผักบุ้งปลูกดูแลง่าย เหมือนกับการปลูกผักโดยทั่วไป แค่เพียงดูแลป้องกันศัตรูพืช ไม่ให้มีวัชพืชมาเกาะหรือทำลาย ก็ได้ผักบุ้งต้นงามๆ คุณภาพดี
ไปวางข ายในตลาดได้ไม่ยาก หากใครมีความสนใจที่จะปลูกผักบุ้งน้ำ ก็สามารถปรึกษาได้ที่ คุณสุภาวดี แตงสุข หมายเลขโทรศัพท์ (089) 107-0124
อ้างอิงที่มาจาก หนังสือ ชี้ช่องทางการทำกิน