น่าอ่าน

‘ก้อง ห้วยไร่’ นักร้องใจบุญทำนา 30 ไร่ สีข้าวแจกชาวบ้าน

ขอชื่นชม สำหรับ ‘ก้อง ห้วยไร่’ เป็นนักร้องอีกคนที่ถึงแม้จะโด่งดัง มีชื่อเสียงมากมาย แต่ก็ไม่เคยลืมบ้านเกิด และคอยช่วยเหลือชาวบ้านที่ลำบากอยู่เสมอ และก่อนหน้านี้ ‘ก้อง ห้วยไร่’ ก็ได้ทำนาให้พื้นที่ของตัวเองจำนวน 30 ไร่ เพื่อนำข้าวที่ได้จากการทำนาไปแจกจ่ายให้ชาวบ้านผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบันอีกด้วย โดย ‘ก้อง ห้วยไร่’

ได้โพสต์ภาพ ที่กำลังสีข้าว พร้อมระบุข้อความไว้ว่า “หนึ่งน้ำใจต่อหนึ่งหัวใจที่ลำบาก เพราะส่วนตัวผมผมช่วยได้ไม่กี่ครอบครัวแต่ถ้าทุกคนทั่วประเทศที่พอมีกำลังทรัพย์ช่วยเหลือ กันคนละนิดคนละหน่อย สยามเมืองยิ้มจะเบ่งบานให้คนทั้งโลกได้รู้ ได้เห็น สู้ไปด้วกันเด้อครับ” ต้องบอกเลยว่า เป็นคนที่ติดดิน และไม่เคยลืมถิ่นฐานบ้านเกิดเลยจริงๆ และก่อนหน้านี้

เมื่อว่างเว้นจากงานในวงการบันเทิง และงานร้องเพลง หนุ่ม ‘ก้อง ห้วยไร่’ ก็จะกลับบ้านไปทำนา สีข้าว อยู่ที่บ้านเกิดในจังหวัดสกลนคร โดยมักจะกลับไปกับครอบครัว ที่มีภรรยา สาวอย่าง ‘เบล ขนิษฐา เบ้าหล่อเพชร’ และบุตรชายสุดน่ารัก ‘น้องไข่เจียว’ พากันไปใช้ชีวิตติดดินที่บ้านเกิด นอกจากการทำนาแล้ว ‘ก้อง ห้วยไร่’ ยังสานฝันตัวเองในวัยเยาว์

จัดทำสนามฟุตบอลกลางทุ่งนา พร้อมจัดงานแข่งขันเพื่อมอบทุนการศึกษาให้น้องๆ ในชุมชน และผู้ที่สนใจเข้าร่วมอีกด้วย ซึ่งงานในครั้งนั้น ใช้ชื่อว่า ‘ห้วยไร่คัพ’ ที่เสียงตอบรับถือ ว่าดีมาก และได้จัดขึ้นมาเป็นปีที่สอง ก่อนที่จะต้องชะลอจัดงานแข่งขันไปก่อนเพราะด้วนสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบันนี้ นั่นเอง ก่อนหน้านี้ ‘ก้อง ห้วยไร่’ ก็ได้ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า

“ผมชอบเล่นฟุตบอลมาตั้งแต่สมัยเรียนประถม ตอนนั้นผมอายุ 11 ขวบ ผมมีความฝันอยากเป็น นักฟุตบอลทีมชาติไทย ก็มีพี่ๆ นักกีฬาทีมชาติ เป็นไอดอลในดวงใจอยู่หลายคน ทำให้เกิด แรงบันดาลใจอยากเตะฟุตบอล แต่ผมก็รู้ตัวเองว่า ความสามารถด้านกีฬาของเรา คงสู้คนอื่นไม่ได้ ก็เปลี่ยนมาเป็นผู้ชม ที่ติดตามเชียร์ดีกว่า จากนั้นผมก็มาสู้ในเส้นทางที่ตัวเองเลือก

ด้วยการเป็นนักร้อง แต่ว่าสมัยก่อนสนามฟุตบอลในหมู่บ้าน มีแค่ในโรงเรียนเท่านั้น พวกผมก็กลัวครูจะดุเอามาก เลยไม่กล้าใช้สนามโรงเรียน ก็เริ่มมองหากันว่าถ้าเราอยากเตะฟุตบอลพอจะมี ที่ไหนบ้าง ที่เราสามารถไปเตะได้ สุดท้ายก็มาเตะบอลในทุ่งนาตามประสา ไปตัดไม้ไผ่มาทำเสาโกล ไม่มีตะปูก็ใช้ เถาวัลย์ที่หาได้มาพันรัด แล้วขุดหลุมปักเสาโกลลงไป ส่วนฟุตบอลที่ใช้

ก็เป็นบอลเก่าๆ สภาพน่าจะผ่านการใช้งานมากกว่า 3-4 ปี หนังลอกหมดแล้ว เป็นบอลสีดำๆ เราคิดถึงบรรยากาศแบบนี้ เพราะปัจจุบันมันไม่มีแล้ว ย้อนกลับไปสมัยก่อน ฐานะทางบ้าน ผมยากจนมาก ตั้งแต่เล็กจนโต ผมเจอความยาก ลำบากมาหลายๆ รูปแบบ ไม่มีแม้กระทั่งบ้านของตัวเอง พ่อกับแม่ ต้องไปนอนตามเถียงนา แต่ผมเป็นคนที่มีความเชื่อมั่นว่า สักวันหนึ่งจะประสบความสำเร็จได้

หากเราสามารถอดทนต่อสิ่งเหล่านั้นได้ พอมาวันนี้ ผมก็เริ่มมีเงินก็อยากจะสานฝันในวันวาน ผมเลยคิดเล่นๆ ระหว่างกินข้าว จนตัดสินใจจัดฟุตบอลแบบไม่ใส่รองเท้าขึ้นที่นี่ อาจไม่ได้วางแผนอะไร มากมายนักแต่เชื่อมันจะสำเร็จได้ แต่ผมคนเดียวคงไม่สามารถทำได้ทุกอย่าง ก็ได้พี่ๆ น้องๆ ที่เขาเชื่อในไอเดียเรา ต้องขอบคุณพวกเขาด้วยครับที่คอยสนับสนุน และช่วยเหลือกันมาโดยตลอด”

วันที่ชีวิตไม่ข าดทุน คือ วันที่ทำบุญ และให้อ ภั ย วันที่ชีวิตมีกำไร คือ วันที่ตั้งใจทำความดี

Facebook Comments Box
สวัสดี